4,834 Views
Favorite
จริง ๆ แล้วการฝึกลูกให้เป็นเด็กดีนั้น เริ่มต้นจากการสร้างให้ลูกเป็นเด็กที่มีความสุขเสียก่อน เมื่อลูกเป็นเด็กที่มีความสุข เขาจะเป็นเด็กที่มีอารมณ์ดี มีวุฒิภาวะที่มั่นคง และรู้จักส่งต่อความสุขให้กับคนอื่น เราจะเห็นได้ว่าเด็กที่อารมณ์ดี มักจะเป็นเด็กที่ร่าเริงแจ่มใส ชอบแบ่งปัน และช่วยเหลือผู้อื่น จึงเป็นที่รักของเพื่อน ๆ และกลุ่มคนที่พบเห็น จงเชื่อเถอะว่าเมื่อเราส่งต่อพลังงานด้านบวกออกไป เราก็จะได้รับพลังงานด้านบวกกลับมาเช่นกัน
ในการที่ลูกจะออกไปใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุข คุณพ่อคุณแม่ต้องฝึกฝนและพัฒนาทักษะทางด้านอารมณ์ของลูกให้มีความมั่นคงเสียก่อน ความมั่นคงทางอารมณ์นี้ก็คือ การสอนให้ลูกรับรู้และเข้าใจอารมณ์พื้นฐานของตนเอง รู้จักควบคุมอารมณ์ของตนเองเมื่อต้องอยู่ร่วมกับผู้อื่น โดยวิธีง่าย ๆ ในการฝึกให้ลูกรู้จักและเข้าใจอารมณ์ของตนเองก็คือ การฝึกให้ลูกได้เผชิญกับปัญหา และหาคำตอบด้วยตนเอง ถึงแม้ในบางครั้งการแก้ปัญหาของลูกอาจจะยังไม่สำเร็จ แต่ขอให้พ่อแม่จงชมเชย และให้กำลังใจ ซึ่งจะเป็นการช่วยให้เด็กเกิดความพยายาม ทำความเข้าใจ และจดจำได้ด้วยตนเองว่าสิ่งไหนคือสิ่งที่ควรและไม่ควรทำ อันจะนำไปสู่การปรับใช้ และทำพฤติกรรมที่เหมาะสมในอนาคต
เพราะเด็กแต่ละคนมีความแตกต่างกัน และธรรมชาติก็สร้างให้มนุษย์ทุกคนมีความต่าง และเอกลักษณ์เฉพาะตัว ดังนั้นการที่ลูกจะออกไปใช้ชีวิตในสังคมที่เต็มไปด้วยความแตกต่างนั้น พ่อแม่จะต้องฝึกให้ลูกทำความเข้าใจและยอมรับในความแตกต่างของแต่ละบุคคล โดยเริ่มจากการทำกิจกรรมร่วมกันในบ้าน เช่น การฝึกให้ลูกแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องต่าง ๆ หรือฝึกให้ลูกรู้จักช่วยพ่อแม่คิดแก้ปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เกิดขึ้นภายในบ้าน การที่พ่อแม่ฝึกให้ลูกได้แสดงความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ นอกจากจะเป็นการทำให้ลูกมีทักษะการคิดแก้ปัญหาที่ดีแล้ว ยังเป็นการฝึกให้ลูกรู้จักการยอมรับ ฟังความคิดเห็น และมองเห็นในความแตกต่างทางความคิดของผู้อื่นอีกด้วย
นอกจากคำว่า “สวัสดี” ที่เราสอนให้ลูกพูดยามเมื่อพบเจอคนอื่นแล้ว คุณพ่อคุณแม่ควรสอนให้ลูกรู้จักกล่าวคำว่า “ขอบคุณ” และ “ขอโทษ” โดยเริ่มจากพ่อแม่ที่ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูก ฝึกพฤติกรรมเหล่านี้ให้คุ้นชินตั้งแต่ในบ้าน ซี่งลูกก็จะซึมซับและจดจำสิ่งดี ๆ และนำไปปรับใช้ได้ เมื่อถึงเวลาที่ลูกต้องออกไปพบเจอผู้ใหญ่หรือบุคคลต่าง ๆ ในสังคม ความอ่อนน้อมถ่อมตน และพฤติกรรมเหล่านี้ก็จะสร้างเสน่ห์ให้ลูกเป็นที่รักของผู้พบเห็นได้ไม่ยาก
เริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยการทำกิจกรรมร่วมกันภายในครอบครัว เริ่มจากการฝึกให้ลูกช่วยเหลือพ่อแม่ จากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่ลูกสามารถทำได้ เช่น ช่วยกันทำกับข้าว หรือปลูกต้นไม้ เมื่อลูกช่วยพ่อแม่อย่าลืมชมเชย และให้กำลังใจลูก สิ่งนี้จะทำให้ลูกเกิดกำลังใจในการช่วยเหลือผู้อื่น และจะช่วยหล่อหลอมให้ลูกกลายเป็นเด็กที่มีน้ำใจ ชอบช่วยเหลือผู้อื่น ซึ่งการที่ลูกของเราเป็นเด็กดีมีน้ำใจ ก็จะทำให้สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข
