Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

อันตรายจากการใช้ยา

Posted By Plook Creator | 27 มี.ค. 61
17,011 Views

  Favorite

ยา คือ สิ่งที่นำเข้าสู่ร่างกาย หรือใช้กับร่างกายของเราเพื่อบำบัด ป้องกัน หรือรักษาโรค รวมถึงใช้บำรุงร่างกาย แม้ว่าคำนิยามจะไม่ได้ชัดเจนในแง่วิธีการหรือสรรพคุณ แต่โดยปกติแล้วกฎหมายในแต่ละประเทศหรือท้องที่จะมีการจำกัดหรือบัญญัติไว้ว่า อะไรจึงเรียกได้ว่ายา รวมถึงอะไรไม่ใช่ยา สำหรับประเทศไทยได้กำหนดความหมายไว้ในพระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 "วัตถุที่มุ่งหมายสำหรับใช้ในการวินิจฉัย บำบัด บรรเทา รักษา หรือป้องกันโรค หรือความเจ็บป่วยของมนุษย์หรือสัตว์" นอกจากนั้นยังมีการกำหนดจุดมุ่งหมายของสาร เพื่อการรักษาในแง่มุมต่าง ๆ

 

แม้ว่ายาที่ใช้กันเพื่อการรักษาโรคและความผิดปกติต่าง ๆ มีข้อบ่งชี้การใช้ที่ชัดเจน แต่หลาย ๆ ครั้ง ผู้บริโภคและผู้ป่วยก็ใช้ยาผิดวิธี ไม่ใช่แค่การรับประทานยาผิดเวลา แต่หมายรวมถึงการใช้ยาผิดประเภท เกินขนาด (Overdose) หรือใช้โดยไม่จำเป็น เพราะส่วนใหญ่แล้วเรารู้เพียงแค่ว่ายาตัวไหนใช้รักษาอะไร แต่ไม่ได้สนใจข้อมูลอื่น ๆ เช่น ผลข้างเคียง (Side Effect) โทษ ขนาดการใช้ ระยะเวลาในการใช้ต่อเนื่อง หรือการออกฤทธิ์


- การใช้ยาเกินขนาด เช่น การกินยาแอสไพรินเกินขนาด ทำให้เกิดภาวะเลือดเป็นกรดถึงตายได้ หรือการกินพาราเซตามอลมาก ๆ เป็นผลเสียต่อตับ ทำให้เกิดภาวะตับวายเฉียบพลัน โดยการกินนี้ไม่ได้หมายถึงการกินครั้งเดียวในปริมาณมากเท่านั้น แต่หมายรวมถึงการรับประทานเป็นประจำด้วย ดังนั้น ผู้ที่ใช้พาราเซตามอลรักษาอาการเจ็บป่วยเป็นประจำก็ควรระวังถึงผลที่ตามมาด้วย

 

- ผลข้างเคียงของยา ยาทุกตัวคือสารเคมี และมันไม่ได้มีผลเพียงด้านเดียว แม้ว่าเราจะมุ่งเน้นถึงผลของมันต่ออาการของร่างกายบางอย่างเพื่อการรักษาก็ตาม ยกตัวอย่างเช่น ยาแอสไพรินที่ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อกระเพาะอาหารได้ หรือยาแก้อักเสบบางชนิดทำให้ฟันมีสีเหลือง

 

- ดื้อยา (Drug resistance) มักเกิดขึ้นกับการใช้ยาปฏิชีวนะแบบผิด ๆ เช่น Amoxycillin ซึ่งมักกินกันไม่ครบจำนวนหรืออัตราที่หมอกำหนด เมื่อรู้สึกว่าอาการดีขึ้นแล้วก็มักจะเลิกกิน และนั่นทำให้เชื้อโรคดื้อยาและครั้งถัดไปที่ใช้ยานี้ก็จะไม่ได้ผลดีเท่าที่ควรหรือไม่ได้ผลแล้ว


- การใช้ยาในทางที่ผิด รวมถึงการติดยา (Drug Abuse) เป็นการใช้ยาโดยไม่ได้หวังผลทางการรักษา ยกตัวอย่างเช่น การใช้มอร์ฟีน ซึ่งถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อระงับความเจ็บปวด มาใช้กลายเป็นยาเสพติด หรือการใช้ยาปฏิชีวนะเพื่อหวังผลลดไข้ ซึ่งแน่นอนว่าไม่ได้ผล และไม่สามารถรักษาโรคได้

 

นอกจากนั้นยังมีการแพ้ยา (Drug Allegy) และปฏิกิริยาลูกโซ่ต่อ ๆ กันจากการใช้ยา ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อใช้ยามากกว่า 2 ตัวขึ้นไปพร้อม ๆ กันซึ่งอาจจะเสริมฤทธิ์กัน หรือต้านฤทธิ์กันก็ได้

 

นอกจากยาหรือสารเคมีบางชนิดที่ในปัจจุบันกลายเป็นยาเสพติดแล้ว ยังมียาบางชนิดที่ต้องระมัดระวังในการใช้ เพราะนับได้ว่าเป็นยาที่อันตรายที่สุดในโลก ในปัจจุบันตัวยานี้เป็นตัวยายอดนิยม ซึ่งสาว ๆ หลายคนใช้เป็นประจำ นั่นคือ Botulinum Toxin หรือ Botox ซึ่งความอันตรายของยานี้คือ หากรับประทานเข้าไปเพียง 0.00000007 กรัม ก็สามารถฆ่าผู้ใหญ่ที่มีน้ำหนักประมาณ 70 กิโลกรัมได้ แต่ปัจจุบันนี้มีการใช้โบท็อกซ์กันอย่างกว้างขวาง โดยหวังฤทธิ์ในการทำกล้ามเนื้อให้เป็นอัมพาต ไม่สามารถขยับได้ ซึ่งเมื่อนำมาประยุกต์ใช้ด้านความงาม จะใช้เพื่อปรับรูปหน้า ลดรอยเหี่ยวย่น เป็นต้น

 

 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Plook Creator
  • 15 Followers
  • Follow