Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

อัพเดทสิทธิประกันสังคม ประจำปี 2561

Posted By Plook Parenting | 23 ก.พ. 61
23,212 Views

  Favorite

ข่าวสารเกี่ยวกับสิทธิประกันสังคมเป็นสิ่งที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ผู้ใช้สิทธิได้รับสิทธิประโยชน์สูงสุด และครบถ้วนสมบูรณ์ที่สุด

 

สิทธิประกันสังคม คล้ายกับหลักการออมอย่างหนึ่ง เป็นการหักเปอร์เซ็นต์จากเงินค่าจ้างหรือเงินเดือน มาใช้เป็นหลักประกันความคุ้มครองต่าง ๆ ทั้งทางด้านสุขภาพและการดำเนินชีวิต โดยครอบคลุมกรณีเหล่านี้ คือ ชราภาพ, เจ็บป่วยหรือประสบอันตราย, คลอดบุตร, ทุพพลภาพ, เสียชีวิต และสงเคราะห์บุตร ซึ่งสิทธิประโยชน์ที่ผู้ประกันตนพึงได้ มีดังต่อไปนี้

 

1. การตรวจสุขภาพประจำปี

ส่วนนี้ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น เพียงผู้ประกันตนยื่นบัตรประจำตัวประชาชนให้กับสถานพยาบาลที่ผู้ประกันตนได้เลือกใช้สิทธิ ก็สามารถเข้ารับการตรวจสุขภาพได้เลย

สำหรับการตรวจสุขภาพประจำปีนั้น จะมีการตรวจร่างกายของผู้ประกันตนตามหมวดหมู่ และแบ่งตามกลุ่มอายุ ดังนี้

ตรวจร่างกายตามระบบ

1. การคัดกรองการได้ยิน (Finger Rub Test) อายุ 15 ปีขึ้นไป ตรวจได้ 1 ครั้งต่อปี

2. การตรวจเต้านมโดยแพทย์หรือบุคลากรสาธารณสุข

3. การตรวจตาโดยความดูแลของจักษุแพทย์

4. การตรวจวัดสายตาด้วยสาย Snellen Eye Chart อายุ 55 ปีขึ้นไป ตรวจ 1 ครั้งต่อปี

การตรวจทางห้องปฏิบัติการ (Lab)

1. ความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด CBC

2. ตรวจปัสสาวะ UA อายุ 55 ปีขึ้นไป ตรวจ 1 ครั้งต่อปี

3. ตรวจน้ำตาลในเลือด FBS

4. การทำงานของไต Cr อายุ 55 ปีขึ้นไป ตรวจ 1 ครั้งต่อปี

5. ไขมันในเส้นเลือดชนิด Total & HDL Cholesterol อายุ 20 ปีขึ้นไป ตรวจทุก 5 ปี

การตรวจอื่น ๆ

1. เชื้อไวรัสตับอักเสบ HB sAg ตรวจได้ 1 ครั้ง

2. มะเร็งปากมดลูกแบบ Pap Smear

3. ตรวจมะเร็งปากมดลูกวิธี VIA อายุ 30-54 ปีขึ้นไป ตรวจทุก 5 ปี

4. ตรวจเลือดในอุจจาระ FOBT อายุ 50 ปีขึ้นไป ตรวจ 1 ครั้งต่อปี

5. การเอ็กซ์เรย์ทรวงอก Chest X–ray อายุ 15 ปีขึ้นไป ตรวจ 1 ครั้งต่อปี

 

2. การรักษาทางทันตกรรม

เมื่อปี 2560 ที่ผ่านมา มีการเพิ่มค่ารักษาทางทันตกรรมเป็น 900 บาทต่อปี โดยผู้ประกันตนสามารถทำฟันฟรี โดยไม่ต้องสำรองจ่ายล่วงหน้าตามกรอบวงเงิน 900 บาทได้ ในโรงพยาบาลเอกชน 535 แห่ง และโรงพยาบาลรัฐทั่วประเทศ

 

นอกจากนี้ ในปี 2561 สำนักงานประกันสังคมยังมีข่าวสารอื่น ๆ แจ้งให้ทราบ ดังนี้

 

1. ปรับอัตราการจ่ายเงินสมทบใหม่

สำนักงานประกันสังคมเตรียมแผนปรับฐานเก็บเงินสมทบแบบใหม่ โดยคิดเป็น 5% ของเงินค่าจ้าง และปรับอัตราการจ่ายเงินสมทบสูดสุดจาก 750 บาท เป็น 1,000 บาท ตามฐานเงินเดือน เพื่อเพิ่มศักยภาพในการดูแลคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น อาทิ เพิ่มเงินทดแทนการขาดรายได้กรณีประสบอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วย เพิ่มเงินบำเหน็จชราภาพ และเพิ่มเงินสำหรับค่าทำคลอด เป็นต้น

 

2. การแจ้งปรับเปลี่ยนโรงพยาบาลประกันสังคม

การปรับเปลี่ยนโรงพยาบาลประกันสังคม สามารถทำได้แล้วตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2561 โดยสถานพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการประกันสังคมทั่วประเทศ 237 แห่ง เป็นโรงพยาบาลรัฐบาล 159 แห่ง และเอกชน 78 แห่ง

ภาพ : sso.go.th

 

ขั้นตอนการเปลี่ยนโรงพยาบาลประกันสังคม

1. ยื่นแบบเลือกสถานพยาบาลในการรับบริการทางการแพทย์ สปส. 9-02 ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ จังหวัด หรือสาขาทุกแห่งทั่วประเทศ

2. ตรวจรายชื่อสถานพยาบาลประกันสังคม จากนายจ้าง เว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม และสายด่วน 1506 

3. ตรวจสอบสิทธิรักษาพยาบาล ได้ที่ www.sso.go.th, แอปพลิเคชั่น SSO Connect, สายด่วน 1506, สำนักงานประกันสังคมทั่วประเทศ หรือเครื่อง Smart kiosk ของกระทรวงมหาดไทย

โดยทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงสถานพยาบาล ทางสำนักงานประกันสังคมจะแจ้งผลการเลือกสถานพยาบาลผ่านนายจ้างให้กับผู้ประกันตนมาตรา 33 ส่วนผู้ประกันตนมาตรา 39 จะได้รับการแจ้งผลเป็นหนังสือและ SMS

 

อย่างไรก็ตาม สิทธิประกันสังคมเป็นสิทธิพึงได้ของผู้ประกันตนทุกคน การใช้สิทธิประกันสังคมเพื่อดูแลสุขภาพในทุก ๆ ปี อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลลงได้ และส่งเสริมให้ผู้ประกันตนทุกคนมีสุขภาพที่ดีและแข็งแรง

 

 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Plook Parenting
  • 8 Followers
  • Follow