Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

ก.ค.ศ. เห็นชอบ(ร่าง)หลักเกณฑ์สอบแข่งขันครูผู้ช่วยแบบใหม่

Posted By Plook Teacher | 09 ม.ค. 61
4,557 Views

  Favorite

เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2561 ก.ค.ศ. เห็นชอบ (ร่าง) หลักเกณฑ์และวิธีการสอบแข่งขันครูผู้ช่วย ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาหน่วยงานที่จะมาทำหน้าที่จัดสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย ในส่วนของการสอบ ภาค ก (สอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไป) และภาค ข (สอบแข่งขันเพื่อวัดความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง) 

 

ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบให้มีหน่วยงานกลางในการจัดสอบรวม เช่นเดียวกับการสอบข้าราชการพลเรือนสามัญ ของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) โดยมอบหมายให้สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สทศ. เป็นผู้จัดสอบ แต่ สทศ. แจ้งว่าไม่สามารถดำเนินการจัดสอบได้ทันในช่วงเดือนมีนาคม เพราะมีภาระที่จะต้องจัดสอบต่าง ๆ เช่น การทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ที่ประชุมจึงเห็นว่าควรจะต้องเลื่อนการสอบไปประมาณช่วงเดือนสิงหาคม 2561 แทน เพื่อบรรจุให้ทันในเดือนตุลาคม 2561

 

ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้รายงานให้ที่ประชุมรับทราบด้วยว่า การบรรจุครูผู้ช่วยในช่วงเดือนพฤษภาคมยังไม่เร่งรีบ เพราะยังมีบัญชีเดิมซึ่งยังไม่หมดอายุ สามารถเรียกบรรจุได้ อีกทั้ง สพฐ.ยังมีอัตราเกษียณ และมีความจำเป็นจริง ๆ ในช่วงเดือนตุลาคมมากกว่า ที่ประชุมจึงเห็นว่าเพื่อให้ สทศ. ซึ่งเป็นหน่วยงานกลางที่มีมาตรฐานการจัดสอบ ได้มีเวลาในการจัดทำข้อสอบให้ได้มาตรฐาน จึงให้เลื่อนการสอบแบบใหม่ไปเป็นช่วงเดือนสิงหาคม ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับโรงเรียนเอกชนด้วย เพราะมีเวลาในการสรรหาครูใหม่มาสอนแทนผู้ที่สอบบรรจุติดได้ทัน โดยที่ประชุมมอบให้ นพ.อุดม คชินทร รมช.ศึกษาธิการ (ในฐานะกำกับดูแล สทศ.)  ไปหารือในรายละเอียดร่วมกับสำนักงาน ก.ค.ศ. เพื่อได้ข้อสรุปในการจัดสอบร่วมกันต่อไป

 

(ร่าง) หลักเกณฑ์และวิธีการสอบแข่งขัน
เพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการ
เป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
ตำแหน่งครูผู้ช่วย

 

การสอบ มีหลักสูตร 3 ภาค คือ

   1) สอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก) (200 คะแนน)
   2) สอบแข่งขันเพื่อวัดความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง (ภาค ข) (150 คะแนน)
   3) การประเมินความเหมาะสมกับตำแหน่ง (ภาค ค) (50 คะแนน)

   การสอบ ภาค ก ให้ดำเนินการ ดังนี้

         1) คุณสมบัติของผู้มีสิทธิสอบ ต้องเป็นผู้สำเร็จการศึกษา หรือกำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนสุดท้าย ของหลักสูตรไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีทางการศึกษา หรือทางอื่น ที่ ก.ค.ศ. กำหนดเป็นคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง โดยคุณวุฒิที่นำมาใช้สมัครสอบต้องได้รับรองจาก ก.ค.ศ.

         2) ให้ ก.ค.ศ. เป็นผู้กำหนดวัน เวลา และวิธีการในการสอบ

         3) ให้ ก.ค.ศ. หรือหน่วยงานที่ ก.ค.ศ. เห็นสมควรเป็นผู้ดำเนินการสอบ โดยให้ ก.ค.ศ. ตั้งคณะกรรมการและเจ้าหน้าที่รับผิดชอบการสอบได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม

         4) รับสมัครไม่น้อยกว่า 15 วัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ โดยให้ยื่นสมัครทางอิเล็กทรอนิกส์ตามแบบที่กำหนด พร้อมด้วยค่าธรรมเนียมการสมัครสอบ ในอัตราครั้งละ 100 บาท กรณีจัดให้มีการสมัครและสอบด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ให้ผู้สมัครสอบเสียค่าธรรมเนียมฯ ในอัตราครั้งละ 300 บาท

         5) เกณฑ์การตัดสิน ประกาศรายชื่อผู้สอบผ่านภาค ก เฉพาะผู้ที่ได้คะแนนวิชาความสามารถทั่วไปและวิชาภาษาไทยไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 และได้คะแนนวิชาภาษาอังกฤษไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 และออกหนังสือรับรองผลการสอบผ่าน ภาค ก ให้แก่ผู้สอบผ่าน เพื่อนำไปใช้เป็นหลักฐานประกอบการสอบแข่งขัน ภาค ข และเพื่อประเมินภาค ค

         6) ผู้ได้รับหนังสือรับรองผลการสอบ ภาค ก ของ ก.พ. สามารถนำมาใช้เป็นหลักฐานประกอบการสมัครสอบแข่งขันภาค ข และเพื่อประเมินภาค ค ได้ โดยผู้ได้รับหนังสือรับรองฉบับดังกล่าว ต้องเสนอให้สำนักงาน ก.ค.ศ. รับรอง ก่อนนำไปสอบแข่งขัน พร้อมชำระค่าธรรมเนียมในอัตรา 100 บาท

 

   การสอบแข่งขัน ภาค ข และการประเมินภาค ค ให้ดำเนินการ ดังนี้

         1) ให้ส่วนราชการ และ กศจ. หรือ อ.ก.ค.ศ. ที่ ก.ค.ศ. ตั้ง แล้วแต่กรณี เป็นผู้ดำเนินการสอบแข่งขัน ภาค ข และประเมินภาค ค

         2) คุณสมบัติของผู้มีสิทธิสมัครสอบ
                 - ต้องมีคุณสมบัติเฉพาะสำหรับผู้ดำรงตำแหน่งครูผู้ช่วย ตามมาตรฐานตำแหน่งที่ ก.ค.ศ. กำหนด
                 - ต้องมีหนังสือรับรองผลการสอบผ่านภาค ก ของ ก.ค.ศ. หรือของ ก.พ. ที่ ก.ค.ศ. รับรองแล้ว

         3) ให้ส่วนราชการกำหนดวัน เวลาและวิธีการในการสอบ และออกข้อสอบภาค ข กำหนด กำหนดวิธีการสอบ ตรวจคำตอบและประมวลผล และกำหนดองค์ประกอบการประเมิน ตัวชี้วัด และสัดส่วนคะแนนการประเมินภาค ค

         4) ให้ กศจ. หรือ อ.ก.ค.ศ. ที่ ก.ค.ศ. ตั้ง ดำเนินการ ดังนี้
                 - กำหนดจำนวนตำแหน่งว่าง ตามกลุ่มวิชา หรือทางหรือสาขาวิชาเอก ที่จะใช้สอบภาค ข ตามความต้องการของสถานศึกษา และแจ้งส่วนราชการ
                 - ดำเนินการสอบแข่งขัน ภาค ข ตามวิธีที่ส่วนราชการกำหนด และประเมินภาค ค โดยวิธีการสัมภาษณ์ หรือวิธีการอื่นที่เหมาะสม
                 - ตั้งคณะกรรมการและเจ้าหน้าที่รับผิดชอบการสอบแข่งขันได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม
                 - รับสมัครไม่น้อยกว่า 7 วัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ และให้ยื่นใบสมัครตามแบบหรือวิธีการที่กำหนด พร้อมค่าธรรมเนียมการสอบ ในอัตราครั้งละ 100 บาท
                 - กรณีมีการดำเนินการสอบแข่งขัน ภาค ข และประเมินภาค ค พร้อมกัน ให้ผู้สมัครสอบ เลือกสมัครสอบได้เพียงแห่งเดียว หากปรากฏว่าผู้สมัครสอบสมัครเกินกว่าหนึ่งแห่ง จะตัดสิทธิการสอบแข่งขันทั้งหมด
                 - ตั้งคณะกรรมการประเมินความเหมาะสมกับตำแหน่ง ภาค ค ตามองค์ประกอบฯ ที่กำหนด จำนวนชุดละ 5 คน
                 - เกณฑ์การตัดสิน ต้องได้คะแนนแต่ละภาคไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 โดยเรียงลำดับที่จากผู้ที่ได้คะแนนรวมภาค ข และภาค ค จากมากไปหาน้อย
                 - บัญชีผู้สอบแข่งขันได้ ให้ใช้ได้ไม่เกิน 2 ปี นับแต่วันที่ประกาศขึ้นบัญชี

 

ทั้งนี้ สำหรับการสอบภาค ก เห็นควรมอบ สทศ. เป็นผู้ดำเนินการสอบ และในปี พ.ศ.2561 จะเลื่อนการสอบแข่งขันออกไปก่อน คาดว่าน่าจะเริ่มรับสมัครสอบได้ในราวเดือนสิงหาคม 2561 เพื่อให้สามารถบรรจุครูผู้ช่วยได้ในเดือนตุลาคม 2561

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
  • Posted By
  • Plook Teacher
  • 127 Followers
  • Follow