นิตยสารขวัญเรือน เป็นนิตยสารรายปักษ์ ในเครือบริษัท ศรีสยามการพิมพ์ จำกัด ออกวางแผงฉบับปฐมฤกษ์ ในเดือนธันวาคม ปีพุทธศักราช 2511 เป็นนิตยสารที่ยืนหยัดเคียงข้างผู้อ่านมาอย่างยาวนานกว่า 4 ทศวรรษ โดยฉบับของเดือนธันวาคมนี้ถือเป็นเล่มสุดท้ายที่จะวางแผงจำหน่าย ครบรอบ 49 ปี ของขวัญเรือน หลังอยู่คู่กับผู้อ่านมาอย่างยาวนาน
ซึ่งล่าสุดได้มีรายงานว่า “นิตยสารขวัญเรือนทำเรื่องส่งจดหมายแจ้งสมาชิกนิตยสารให้ทราบโดยทั่วกัน ระบุว่า “นิตยสารขวัญเรือนมีความประสงค์จะแจ้งให้ท่านสมาชิกทราบถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เนื่องด้วยสภาวะเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคที่ปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัย โดยเฉพาะในยุคที่สื่อโซเชียลเข้ามามีบทบาท ส่งผลต่อสื่อสิ่งพิมพ์มากขึ้น ทั้งในแง่ของการขายโฆษณาและยอดจำหน่าย ทำให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งพิมพ์เป็นอย่างยิ่ง โดยทางนิตยสารขวัญเรือนได้มีความพยายามที่จะต่อสู้อย่างถึงที่สุดกับการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจและยุคสมัย ซึ่งส่งผลต่อการพิมพ์จำหน่ายที่เกิดขึ้นมาโดยตลอด
ด้วยเหตุนี้ ทางนิตยสารขวัญเรือน จึงขอแจ้งอนุญาตให้ท่านสมาชิกทราบ เรื่องการยุติการจัดทำนิตยสารขวัญเรือน โดยจะจัดทำฉบับที่ 1102 (ฉบับเดือนธันวาคม) เป็นเล่มสุดท้าย พร้อมกันนี้ฝ่ายสมาชิกจะมีจดหมายแจ้งถึงรูปแบบการคืนเงินให้ทราบอีกครั้ง”
"ขวัญเรือน" นิยามตัวเองว่า เป็นนิตยสารเพื่อสาระและความบันเทิงสำหรับทุกคนในครอบครัว ที่ได้รวบรวมสาระและความบันเทิงทุกแขนงไว้เพื่อกล่อมเกลาชีวิต และสร้างเสริมความรื่นรมย์ให้กับครอบครัว โดยมีบุคลิกที่สวยสง่า เปรียบเสมือนสุภาพสตรีไทยผู้รักษาไว้ซึ่งขนบธรรมเนียมประเพณี ในขณะที่ก็พร้อมเปิดโลกทัศน์รับอารยธรรมใหม่ และการเปลี่ยนแปลงได้ ด้วยความคิดและความเข้าใจอย่างมีจินตนาการ
โดยเนื้อหาหลักภายในเล่มจะประกอบด้วย แฟชั่น บทความจากคอลัมนิสต์ชื่อดัง บทสัมภาษณ์ นวนิยาย สุขภาพ ความสวยความงาม ท่องเที่ยว ศิลปะ บันเทิง งานฝีมือ และเพื่อนเด็ก ที่รวบรวมสาระความรู้ นิทาน และเกมต่าง ๆ อันจะเป็นการปลูกฝังให้เด็กสนุกสนานเพลิดเพลินและรักการอ่าน
แน่นอนว่า ตลอดระยะเวลาของการทำงาน 49 ปี ที่นิตยสารขวัญเรือนโลดแล่นบนแผงหนังสือมานจนถึงปัจจุบัน ในยุคที่เทคโนโลยียังไม่เข้ามามีบทบาท หลายคนรู้จักและได้เห็นนิตยสารเล่มนี้ทุกครั้งตามแผงร้านขายหนังสือหรือตามร้านเสริมสวย ที่เวลาสาว ๆ ทุกคนไปทำผมมักจะได้หยิบอ่านอยู่เสมอ
ความรู้สึกตอนนี้เป็นที่รู้กันดีว่า โลกเราเดินมาไกลแล้ว ทุกอย่างรอบตัวคือยุคของดิจิตอล รวมถึงแรงขับเคลื่อนของเศรษฐกิจที่วิ่งและหมุนไปตามเวลา ทำให้เข้าสู่ยุคใหม่แห่งเทคโนโลยีเต็มตัว และสื่อสิ่งพิมพ์ที่เป็นกระดาษทั้งหมดได้เริ่มหายและสูญพันธ์ไป
ปฏิเสธไม่ได้เลยจริง ๆ ว่า ยุคดิจิตอล ยุคสมาร์ทโฟน สื่อออนไลน์ อินเตอร์เน็ต และเทคโนโลยีต่าง ๆ ได้เข้ามาแทนที่สิ่งพิมพ์ไปแล้ว ยอดขายต่าง ๆ ทางการตลาดพุ่งสูงปรี๊ด สังเกตได้จากรอบตัวว่า คนสมัยนี้แทบจะไม่ดูทีวีกันแล้ว ถ้าผู้ประกอบการอื่น ๆ ขืนยังใช้สิ่งพิมพ์ในการทำมาหากินในยุคปัจจุบันอยู่ ก็คงถูกมองว่าล้าหลังไม่ทันสมัยเหมือนคนอื่นเขา ซึ่งมันมีผลกระทบต่อรายได้ที่ได้รับกลับมาอย่างมหาศาล
ขอบคุณภาพปก : Kwanruen Magazine