Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

ธรรมะรับอรุณ : บุคคลตรวจดูด้วยจิตทั่วทุกทิศแล้ว ไม่พบใครซึ่งเป็นที่รักยิ่งกว่าตนเองในที่ไหน ๆ

Posted By มหัทธโน | 08 พ.ย. 60
6,084 Views

  Favorite

 

 

 

สพฺพา ทิสา อนุปริคมฺม เจตสา เนวชฺฌคา ปิยตรตฺตนา
เอวมฺปิ โส ปุถุ อตฺตา ปเรสํ ตสฺมา น หึเส ปรํ อตฺตกาโม

ตรวจดูด้วยจิต ทั่วทุกทิศแล้ว ไม่พบใครที่ไหนเป็นที่รักยิ่งกว่าตนเองเลย
คนอื่นก็รักตนมากเช่นเดียวกัน ฉะนั้น ผู้รักตน จึงไม่ควรเบียดเบียนคนอื่น

เป็นคำกล่าวของพระพุทธองค์ ที่ทรงตรัสกับพระเจ้าปเสนทิโกศล 
--------------------

 

ธรรมะรับอรุณ โดย หลวงพ่อไพศาล วิสาโล 

เรื่องราวสมัยพุทธกาล

สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับ ณ เชตวนารามของอนาถปิณฑิกคฤหบดี ใกล้กรุงสาวัตถี สมัยนั้นพระเจ้าปเสนทิโกศลเสด็จสู่ชั้นบนปราสาทอันประเสริฐ กับพระนางมัลลิกาเทวี 

พระองค์ตรัสถามพระนางมัลลิกาเทวีว่า
"ดูก่อนมัลลิกา ใคร ๆ คนอื่นที่เป็นที่รักยิ่งกว่าตนของเธอเองมีหรือไม่ ?"

พระนางมัลลิกากราบทูลว่า
"ข้าแต่มหาราช ใคร ๆ คนอื่นที่เป็นที่รักยิ่งกว่าตนของหม่อมฉันไม่มี ก็ใคร ๆ คนอื่นที่เป็นที่รักยิ่งกว่าตนของพระองค์เองมีหรือไม่ ?" 


พระเจ้าปเสนทิโกศลตรัสตอบว่า 
"ดูก่อนมัลลิกา ใคร ๆ คนอื่นที่เป็นที่รักยิ่งกว่าตัวของเราเองไม่มี."

ขณะนั้น พระเจ้าปเสนทิโกศลเสด็จลงปราสาท เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค ถวายบังคมแล้ว ประทับนั่ง ณ ที่ควรส่วนหนึ่ง ครั้นแล้วได้กราบทูลข้อโต้ตอบของพระองค์กับพระนางมัลลิกาเทวี ให้ทรงทราบ

ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคทรงทราบเนื้อความนั้นแล้ว จึงเปล่งอุทานนี้ในเวลานั้นว่า

"บุคคลตรวจดูด้วยจิตทั่วทุกทิศแล้ว ไม่พบใครซึ่งเป็นที่รักยิ่งกว่าตนเองในที่ไหน ๆ ตนเองเป็นที่รักยิ่งของคนทั้งหลายอย่างนี้ ผู้รักตน จึงไม่ควรเบียดเบียนผู้อื่น "

 

ความหมาย

การรักตนเองในทางพุทธศาสนา มีความหมายแตกต่าง การรักตัวเองในความเข้าใจของคนทั่วไป  
 

ผู้ที่รักตัว ย่อมเลือกหนทางในการทำบุญ เลี่ยงการทำบาป และมีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เห็นความสำคัญของการให้อภัย แผ่เมตตา ปล่อยวาง และรักสงบ เพราะเขาจะทราบว่า ผลการเบียดเบียนผู้อื่น ก่อให้เกิดวิบากกรรม เดือดร้อน และการไม่ปล่อยวาง เป็นสาเหตุที่ทำให้ใจเป็นทุกข์  
 

หากคนทีรักตนเอง จะรู้ว่าไม่ควรเบียดเบียนผู้อื่น เพราะเป็นการก่อกรรมที่ต้องรับวิบากกรรมทั้งทางตรงและทางอ้อม และกลัวการเป็นบาป  จึงมักจะเป็นคนที่ไม่เห็นแก่ตัว แต่กลับมีความเมตตา กรุณาเอื้อเฟื้อผู้อื่นเพราะเป็นหนทางสร้างบุญกุศลแด่ตน อันเป็นเกราะป้องกันตนเอง เพราะมีแต่คนรักและปกป้อง

ในขณะที่คนที่เห็นแก่ตัว ปล่อยความโลภและกิเลสตัณหาเข้ามาครอบงำ กลับเป็นการทุบหม้อข้าวตนเอง เพราะไม่มีคนรักและกลับหนีห่างไม่อยากช่วยเหลือ
 

ได้แก่ เริ่มต้นด้วยการรักษาศีล 5 อันเป็นศีลพื้นฐานของการเป็นมนุษย์ ได้แก่

ศีลข้อ 1 การไม่เบียดเบียนผู้อื่นด้วยการไม่ฆ่า ไม่ทำร้าย 

ศีลข้อ 2 การไม่เบียดเบียนผู้อื่นด้วยการขโมย แม้แต่ธรรมชาติ ป่าเขาลำเนาไพร

ศีลข้อ 3 การไม่เบียดเบียนผู้อื่น ด้วยการไม่ละเมิดทั้งทางเพศ ทางความคิด ทางการกระทำ แม้แต่วาจา กับบุคคลที่เป็นที่รักของผู้อื่น เช่น ผัวเมีย หรือแม้แต่ลูกหลานผู้อื่น  

ศีลข้อ 4 การไม่เบียดเบียนผู้อื่น ด้วยวาจา ก่อให้เกิดความเจ็บปวดกับผู้อื่น

ศีลข้อ 5 การไม่เบียดเบียนผู้อื่น ด้วยความหลง หรือมึนเมาขาดสติสัมปะชัญญะ ที่อาจจะก่อให้เกิดการเบียดเบียนผู้อื่นตามมา เช่น เมาแล้วทุบตี การติดยาจนหลงทำร้ายพ่อแม่ตนเอง แม้แต่ทำร้ายตนเองด้วยการขับรถจนคว่ำตาย
 

 

@copyright ทรูปลูกปัญญา

 

 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
  • Posted By
  • มหัทธโน
  • 4 Followers
  • Follow