ช่วงครึ้มฟ้าครึ้มฝน หรือบางทีมืด ๆ แป๊บเดียวฝนก็เทจั้ก ๆ ลงมาเลย ฝนตกไม่มีเวล่ำเวลาแน่นอนอย่างนี้สาว ๆ หลายคนคงมีปัญหาเรื่องการซักผ้าตากผ้าอยู่ไม่น้อย

ฟ้าฝนควบคุมไม่ได้ งั้นเราทำเท่าที่ทำได้ละกันนะ มาดูกันเลยว่ามีอะไรบ้างนะที่พอจะทำได้ เพื่อให้พอจะมีเสื้อผ้าใส่ได้ไม่ขาด และแห้งไว หรือถ้าสุดวิสัยจริง ๆ ซักไปแล้วเสื้อผ้าเปียกจะทำอย่างไรกันดี

1. ซักเสื้อผ้าตัวที่สำคัญก่อน

ในช่วงที่สภาพอากาศไม่เป็นใจ การตากเสื้อทั้งหมดบนราวอาจทำให้ไม่มีช่องว่างให้อากาศถ่ายเท เป็นเหตุใดผ้าชื้นและเหม็นอับ ฉะนั้นช่วงนี้อาจต้องคิดเยอะกว่าปกติหน่อยว่าเสื้อผ้าชิ้นไหนที่จำเป็นต้องซักจริง ๆ หรือชิ้นไหนใส่ซ้ำได้ โดยอาจวางตะกร้าแยกไปเลยสำหรับผ้าสำหรับเสื้อผ้าที่จำเป็น เช่น ชุดออกไปทำงาน ชุดนักศึกษา แยกเอาไว้จากเสื้อผ้าที่คุณไม่ค่อยได้ใส่ เช่น เสื้อใส่ตอนอยู่บ้านหรือชุดนอนที่ยังสามารถใส่ซ้ำได้อีก เวลาซักเสื้อผ้าจำเป็นแล้วเอาไปตากก็เว้นระยะมาก ๆ หน่อยให้ลมพัดผ่าน ผ้าจะได้แห้งไวหอมสะอาดสมใจ

2. อย่าโยนเสื้อผ้าเข้าเครื่องไปดื้อ ๆ 

แม้จะมีเครื่องซักผ้าที่เดี๋ยวนี้ช่วยผ่อนแรงและปั่นให้จนหมาดมาก ๆ แล้ว แต่ก่อนเอาเสื้อผ้าใส่เข้าไปคุณก็ยังควรจะคลายแขนเสื้อ ขากางเกง ปลดซิป และกระดุมเสื้อให้เรียบร้อยเสียก่อน กับให้สะบัดผ้าแรง ๆ สองถึงสามครั้งด้วย วิธีนี้จะทำให้เสื้อผ้าของคุณไม่พันกันยุ่งเหยิงและการปั่นผ้าก็จะมีประสิทธิภาพขึ้นอีก

3. ลองย้ายเสื้อผ้ามาตากในบ้านดู

วันไหนที่ซักผ้าเสร็จปุ๊บฟ้าก็ครึ้มปั๊บ ไม่น่าไว้ใจถ้าจะตากผ้าไว้นอกบ้าน อาจเป็นเวลาที่คุณควรลากราวตากผ้าเข้ามาในบ้าน (ถ้าขนาดราวมันเอาเข้าประตูมาได้น่ะนะ) หรืออาจต้องมีขึงเชือกหรือพาดไว้กับอุปกรณ์แต่งบ้านอะไรสักอย่าง อย่างไรก็ดี การตากผ้าในที่ร่มมีโอกาสทำให้ผ้าเหม็นอับได้ ฉะนั้นจึงเป็นเวลาของผลิตภัณฑ์ซักผ้าแบบ 2in1 ที่จะช่วยลดกลิ่นอับแม้จะตากในที่ร่ม หรือไม่คุณอาจเปิดพัดลมหรือแง้มหน้าต่างไว้ให้อากาศถ่ายเท (แต่ดูดีๆ ด้วยนะ ไม่ใช่เอาเอาบ้านแล้วแต่แขวนไว้มุมที่ฝนจะสาดเข้ามาได้ล่ะ) 

4. ใช้ไดร์เป่าผมช่วย (อย่างถูกวิธี)

หลายคนคงใช้ไดร์เป่าผมช่วยอยู่แล้ว เวลาอยากให้ผ้าแห้งเร็ว แต่การเปิดความร้อนแบบสูงสุดอาจไม่ใช้วิธีที่ถูกต้องนัก ลองปรับความร้อนเป็นระดับต่ำสุด พัดลมเบอร์แรงสุด แล้วเป่าเสื้อผ้าให้ทั่วทุกบริเวณแทนดูสิ ที่สำคัญคืออย่าลืมเน้นบริเวณแขนเสื้อ กระเป๋า คอเสื้อ หรือตรงที่มีตะเข็บหนา ๆ กว่าส่วนอื่น เพราะบริเวณแห้งยากเหล่านี้นี้จะกลายเป็นสวรรค์ของพวกแบคทีเรียไปหากไม่ถูกเป่าจนแห้ง

5. ใช้ผ้าแห้งและเตารีดรวมกันก็เวิร์กนะ

ใช้ผ้าขนหนูสะอาดวางลงบนโต๊ะรีดผ้า วางเสื้อผ้าที่คุณต้องการทำให้แห้งทับลงไป แล้วตามด้วยผ้าขนหนูอีกชั้นหนึ่ง ก่อนใช้เตารีดรีดไปให้ทั่วทุกบริเวณดูสิ ผ้าขนหนูจะเป็นตัวป้องกันความร้อนโดยตรงจากเตารีดไม่ให้เสื้อผ้าของคุณไหม้ไปเสียก่อน นอกจากนี้เวลาที่ว่ายังช่วยให้มีไอน้ำไปช่วยให้เสื้อผ้าของคุณไม่มีรอยยับอีกด้วย

เห็นไหมด้วยวิธีง่าย ๆ แค่นี้ เสื้อผ้าของคุณก็แห้งไวและหอมสดชื่นได้ ไม่ว่าอากาศจะแย่แค่ไหนก็ตาม