Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

งานวิจัยสุดแปลกเผย แมวสามารถเป็นได้ทั้งของแข็งและของเหลว

Posted By sanomaru | 21 ก.ย. 60
11,637 Views

  Favorite

ในการประกาศรางวัลอิก โนเบล (IG Nobel) หรืองานวิจัยสุดแปลก ปี 2017 ซึ่งมีอยู่ทั้งสิ้น 10 สาขา หนึ่งในนั้นคือรางวัลในสาขาฟิสิกส์ ซึ่งเป็นรางวัลที่ทำให้คนส่วนใหญ่ต้องอมยิ้ม เพราะหัวข้อที่ได้รับรางวัลสาขาฟิสิกส์ในปี 2017 ก็คือ "แมวสามารถเเป็นได้ทั้งของแข็งและของเหลวหรือไม่" โดย Marc Antoine Fardin ซึ่งเขาใช้หลักการพลศาสตร์ของไหล (Fluid Dynamics) เพื่ออธิบายคำถามนี้

 

การตั้งคำถามของ Marc Antoine Fardin ได้รับแรงบันดาลใจมาจากภาพถ่ายบนโลกออนไลน์ เช่น ภาพแมวในแก้วน้ำ แมวในถัง และแมวในอ่าง เขาได้เขียนบทความวิจัยที่ชื่อว่า "On the Rheology of cats" (Rheology - ศาสตร์ที่อธิบายถึงการเปลี่ยนแปลงรูปทรงและการไหล) หรือวิทยาศาสตร์การไหลของแมว  เพื่ออธิบายปรากฏการณ์นี้

ภาพ : Shutterstock

 

เริ่มจากการนำนิยามของของแข็ง ของเหลว และก๊าซ ซึ่งเป็นสถานะ 3 สถานะในโลกมาเทียบเคียง โดยเขากล่าวว่า ของแข็งจะคงรูปร่างและปริมาตรเท่าเดิมไว้ ของเหลวจะคงปริมาตรแต่เปลี่ยนแปลงรูปร่างไปตามภาชนะที่บรรจุ ส่วนก๊าซมีรูปร่างและปริมาตรไม่แน่นอน และจะเปลี่ยนแปลงไปตามภาชนะที่บรรจุ ซึ่งจากนิยามนี้จึงมีความเป็นไปได้ว่าแมวจะเป็นของเหลว แต่วิทยาศาสตร์มีบทพิสูจน์มากกว่านั้น เพราะ Marc Antoine Fardin ได้ใช้หลักการทางฟิสิกส์ที่เรียกว่า วิทยาศาสตร์การไหล (Rheology) มาอธิบายเพิ่มเติม

 

Marc Antoine Fardin ใช้ ค่า De (Deborah number) ซึ่งเป็นค่าที่ใช้ในวิทยาศาสตร์การไหลเพื่ออธิบายลักษณะของวัสดุที่มีการไหล โดยทั่วไปค่า De หาได้จากสูตร

De = τ/T
τ คือ Relaxation time หรือเวลาที่ใช้ในการคลายตัว ซึ่งในกรณีนี้คือเวลาที่แมวมีการเปลี่ยนรูปร่างจนเต็มภาชนะ
T คือ Time scale of observation หรือเวลาที่ใช้ในการสังเกตการณ์

 

สำหรับของเหลวโดยทั่วไปจะมีค่า De น้อยกว่า 1 (De<1) นั่นหมายความว่า สิ่งที่มีสถานะเป็นของเหลว จะมีการเปลี่ยนรูปร่างไปตามภาชนะได้ในระยะเวลาสั้น ๆ ส่วนของแข็งจะมีค่า De มากกว่า 1 (De>1) ซึ่งในกรณีของแมว มันสามารถเปลี่ยนเปลี่ยนแปลงรูปร่างไปตามภาชนะได้อย่างรวดเร็วจนทำให้ค่า De น้อยกว่า 1 จึงสรุปได้ว่าแมวเป็นของเหลว

 

แต่ไม่ใช่เพียงเท่านั้น เพราะจากบทสรุปของงานวิจัย แมวยังเป็นของแข็งได้อีกด้วย เพราะในสถานการณ์ที่ต่างกัน เช่น เมื่อแมวอยู่ในภาชนะขนาดใหญ่อย่างอ่างอาบน้ำ มันก็สามารถทำตัวให้อยู่ในสถานะของแข็งได้เช่นกัน โดยค่า De ในสถานการณ์เช่นนี้จะมากกว่า 1

ภาพ : Shutterstock
ภาพ : Shutterstock

 

นอกจากนี้จากงานวิจัยของ Marc Antoine Fardin ยังสรุปได้ว่า  แมวที่มีอายุน้อยกว่าหรือลูกแมวสามารถคงรูปร่างของพวกมันให้เป็นไปตามภาชนะต่าง ๆ ได้นานกว่าแมวที่มีอายุมาก ขณะที่แมวที่อายุมากกว่าจะมีเวลา Relaxation time หรือใช้เวลาในการเปลี่ยนรูปร่างให้เป็นไปตามภาชนะน้อยกว่าแมวที่อายุน้อย ที่สำคัญพวกมันยังขี้เกียจกว่าสัตว์ในตระกูลแมวอื่น ๆ ด้วย

 

ทั้งนี้งานวิจัยที่ช่วยคลายข้อสงสัยให้กับทาสแมวของ Marc Antoine Fardin ทำให้เขาได้รับเงินรางวัลไปถึงสิบล้านล้านซิมบับเวียนดอลลาร์ หรือเมื่อเทียบเป็นเงินไทยแล้ว มันมีมูลค่าไม่ถึง 10 บาทด้วยซ้ำ แต่ก็ถือว่าเป็นงานวิจัยแบบขำ ๆ ที่ทำให้คนอ่านอย่างเรายิ้มได้ก็แล้วกันเนอะ

 

 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • sanomaru
  • 17 Followers
  • Follow