ยีนยอดมนุษย์

ไม่ใช่แค่การหลอกล่อจากภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ของฝั่งฮอลลีวูดเท่านั้น ที่ทำให้เราอยากมีพลังยอดมนุษย์ แต่แท้จริงแล้วเราทุกคนล้วนอยากแตกต่าง อยากเก่งกว่าคนรอบข้าง และอยากโดดเด่น ไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง  ดังนั้น หากมีใครมาบอกคุณว่า เมื่อฉีดยานี้เข้าไปแล้วคุณจะมีความสามารถพิเศษ หรือคุณได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วมทดลองซึ่งเป็นความลับสุดยอดของกองทัพ คงจะมีคนจำนวนไม่น้อยที่สงสัยว่าเป็นเรื่องหลอกลวง แต่แน่ละ ที่จะมีคนอีกจำนวนไม่น้อยคิดจะเข้าร่วมจริง ๆ

จะเกิดอะไรขึ้นหากวันนี้ นักวิทยาศาสตร์ออกมาบอกคุณว่า การเป็นยอดมนุษย์เป็นสิ่งที่เป็นไปได้ เพียงแค่ปรับเปลี่ยนพันธุกรรมเล็กน้อย คุณก็อาจจะเป็นหนึ่งในทีม X-men ได้ง่าย ๆ มันไม่ใช่ฮอร์โมนจำเพาะอย่าง Growth Hormone ที่ทำให้คนเรามีรูปร่างสูงใหญ่หรือมีพละกำลังแข็งแรงเท่านั้น และแม้ว่าฮอร์โมนดังกล่าวจะสังเคราะห์ขึ้นมาได้ มันก็ไม่อาจทำให้ร่างกายของเราแข็งแรงขึ้นในระดับที่จะเป็นยอดมนุษย์ได้เลย แต่คำตอบกลับอยู่ที่ความลับที่ซ่อนอยู่ในเซลล์ของเรา

ลึกลงไปในระดับนาโน นักวิทยาศาสตร์ค้นพบยีนบางชุดที่อยู่ในทุกเซลล์ของร่างกายเรา นี่แหละคือกุญแจสำคัญที่จะปลดปล่อยพลังในตัวคุณให้ออกมามากกว่าคนธรรมดาทั่วไป มันเริ่มจะฟังดูเหมือนนวนิยายวิทยาศาสตร์หรือพล็อตของหนังทำเงินต่าง ๆ ที่ยอดมนุษย์เกิดจากการได้รับรังสีพิเศษเข้าไปเปลี่ยนโครงสร้างระดับเซลล์ หรือเปลี่ยนพันธุกรรมของคนคนนั้นและกลายเป็นยอดมนุษย์ นักวิทยาศาสตร์พบว่ามันเป็นไปได้ เพราะการเปลี่ยนแปลงดีเอ็นเอ หรือความผิดปกติ หรือการผ่าเหล่าที่เกิดขึ้นในระดับดีเอ็นเอนี้เองที่ทำให้หลาย ๆ คนมีความสามารถเหนือคนธรรมดาทั่วไป ยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่น กล้ามเนื้อแขนหรือขาของเรา มีหลายสิ่งที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อ

หนึ่งในปัจจัยที่นักวิทยาศาสตร์สนใจคือ ไมโอสแตติน  (Myostatin) มันคือโปรตีนชนิดหนึ่งซึ่งมีหน้าที่ควบคุมการเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อลายหรือกล้ามเนื้อที่ช่วยในการขยับเขยื้อนโครงสร้างต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น การเดิน การวิ่ง โดย Myostatin จะควบคุมการเติบโตของกล้ามเนื้อไม่ให้โตเกินไปอย่างไม่หยุดยั้ง คุณอาจจะเคยเห็นภาพยนตร์หลาย ๆ เรื่อง ที่ตัวร้ายทำการทดลองกับตัวเอง แล้วทำให้โครงสร้างของร่างกายดูสูงใหญ่ เติบโตพองออกไปเรื่อย ๆ เหมือนคางคกพองลม พวกเขาโตขึ้นเรื่อย ๆ จนหยุดไม่ได้ และทำให้ระบบต่าง ๆ ของร่างกายล้มเหลวหรือระเบิดไปในที่สุด ความจริงก็คือโปรตีนชนิดนี้ป้องกันไม่ให้พวกคุณโดยเฉพาะนักเพาะกายเป็นแบบในภาพยนตร์ ต่อให้นักเพาะกายที่มีกล้ามใหญ่ที่สุดในโลกเอง ก็ยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของโปรตีนชนิดนี้

ตัวอย่างที่สามารถเห็นได้ชัดเจนนอกจากนักเพาะกายก็คือ วัวนักกล้าม ซึ่งเป็นวัวสายพันธุ์ Belgian Blue บ้างก็เรียกว่า Monster Cow เพราะร่างกายที่ใหญ่กำยำเหนือวัวขุนทั่ว ๆ ไป มันไม่ได้ตัวใหญ่เพราะไขมันแต่เป็นกล้ามเนื้อล้วน ๆ วัวสายพันธุ์ดังกล่าวเกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรม จากการผสมข้ามสายพันธุ์ของ Shorthorn Cattle และ Charolais Cattle ทำให้ยีน  MSTN ซึ่งควบคุมปริมาณการผลิตของโปรตีนไมโอสแตตินผิดปกติ โปรตีนนี้จึงถูกผลิตออกมาน้อยและควบคุมการเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อได้น้อยกว่าปกติ สิ่้งที่เราได้คือ วัวที่มีกล้ามเนื้อสองชั้นซ้อนกัน แม้ว่ามันจะดูเหมือนวัวนักกล้ามในอุดมคติที่เราอยากได้ แต่ผลข้างเคียงที่เห็นได้ชัดคือ ความหนาแน่นของกล้ามเนื้อทำให้พวกมันไม่สามารถออกลูกได้เอง บ่อยครั้งต้องผ่าคลอด

หากวัวกลายเป็นยอดวัวนักกล้ามที่แข็งแรงกว่าปกติได้
เพราะการทำงานที่ผิดปกติในระดับยีน แล้วคนจะเป็นยอดมนุษย์ได้หรือไม่

ก่อนที่จะก้าวไปถึงความผิดปกติของโปรตีนชนิดนี้ในคน ปัจจุบันก็มีการทดลองเพื่อทำให้สุนัขตำรวจหรือสุนัขทหารมีความแข็งแรงมากกว่าสุนัขปกติด้วยการควบคุมโปรตีนชนิดนี้ ส่งผลให้เรามีสุนัขนักกล้าม ส่วนคนนั้นมีรายงานว่า มีเด็กบางคนที่ประสบกับอาการผิดปกติของโปรตีน Myostatin เช่นกัน และทำให้พวกเขาดูเหมือนนักเพาะกล้ามจิ๋วโดยไม่ต้องออกกำลังกายมากแต่อย่างใด เราเรียกลักษณะเช่นนี้ว่า Myostatin-related muscle hypertrophy นักวิทยาศาสตร์พบว่า แม้จะดูเหมือนอาการผิดปกติ แต่ก็ไม่ได้ทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม ยังจำเป็นต้องมีการศึกษาอีกมากถึงผลข้างเคียงที่อาจจะเกิด และจำไว้ว่าแม้แต่ในหนังสไปเดอร์แมน ยังมีวลีที่ว่า

"With Great Power Comes Great Responsibility"

การได้มาซึ่งความแข็งแรงจะตามมาด้วยหน้าที่และความรับผิดชอบ