Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

สารพิษและสิ่งปนเปื้อนอาหาร

Posted By Plookpedia | 19 มิ.ย. 60
14,669 Views

  Favorite

สารพิษและสิ่งปนเปื้อนอาหาร

 

        ถ้าจะถามเด็ก ๆ ว่า "ทำไมจึงต้องกินอาหาร" เด็ก ๆ ก็คงตอบว่า "เพื่อให้ร่างกายเจริญเติบโต แข็งแรงไม่เจ็บป่วย มีแรงวิ่งเล่นได้" เด็ก ๆ ต้องกินอาหารให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย วันหนึ่ง ๆ ไม่น้อยกว่า ๓ มื้อ มื้อเช้า มื้อกลางวัน และมื้อเย็น อาหารที่เด็ก ๆ กินต้องมีสารอาหารครบทั้ง ๖ ประเภท ได้แก่ คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน เกลือแร่ วิตามิน และน้ำ และอาหารนั้น
ควรจะสะอาด ไม่มีเชื้อโรค หรือสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ปนเปื้อนมาด้วย เด็ก ๆ จึงจะแข็งแรง และมีสุขภาพดี

 

        ถ้าอาหารที่เด็ก ๆ กิน ไม่สะอาด มีเชื้อโรคปนเปื้อนมาด้วย เด็ก ๆ อาจป่วยเป็นโรคต่าง ๆ ได้ เช่น อหิวาตกโรค โรคไทฟอยด์ โรคบิด โรคตับอักเสบ หรืออาจมีอาการท้องเดิน ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียนศีรษะ

 

 

        ถ้าอาหารที่เด็ก ๆ กิน มีสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นอันตราย หรือเป็นพิษต่อร่างกายปนเปื้อนมา เด็ก ๆ ก็จะได้รับอันตรายจากสิ่งเหล่านั้น สิ่งปนเปื้อนที่มาจากสิ่งแวดล้อม และเป็นอันตราย หรือเป็นพิษต่อร่างกาย มีหลายชนิด เช่น สารกำจัดแมลงที่ติดมากับผักผลไม้ สารพิษจากเชื้อราในถั่วลิสงป่น
โลหะตะกั่ว ในอาหารกระป๋องที่ใช้ตะกั่วบัดกรี กระป๋อง สีจากถุงพลาสติก หรือภาชนะพลาสติก
ที่ใช้ใส่อาหาร สีจากหมึกพิมพ์บนกระดาษหนังสือพิมพ์ ที่ใช้ห่ออาหาร และสีจากถ้วยชาม ที่มีลวดลาย และสีฉูดฉาด เป็นต้น

 

 

สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ เมื่อเข้าสู่ร่างกาย ร่างกายจะพยายามกำจัดออกมาให้หมด แต่ถ้ากำจัดไม่หมด เหลือสะสมไว้ในร่างกาย เมื่อมีปริมาณมากพอ ก็จะทำให้เกิดอันตรายแก่อวัยวะต่าง ๆ ทำให้เกิดอาการผิดปกติ และอาจทำให้ถึงแก่ชีวิตได้ 

 

        เด็ก ๆ ควรจะต้องรู้จักเลือกกินแต่อาหารที่มีคุณภาพดี มีคุณค่าอาหารสูง เป็นอาหารที่สุก สะอาด ปรุงขึ้นใหม่ ๆ เก็บไว้ในภาชนะที่สะอาด และไม่มีสี เด็ก ๆ ไม่ควรกินอาหารหมักดอง หรืออาหารกระป๋องที่มีคุณภาพไม่ได้มาตรฐาน แต่ควรกินผักสด ผลไม้สด ที่ล้างสะอาด ไม่มีสารกำจัดแมลงเหลือติดอยู่ เด็ก ๆ จะได้เจริญเติบโต มีร่างกายแข็งแรง และมีสุขภาพดี

--------------------------------------------------------

 

        อาหารที่เราบริโภคไม่ว่าจะเป็นพืช ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ นม ไข่ ฯลฯ ซึ่งเป็นผลิตผลทางการเกษตร และการประมง หรืออาหารกึ่งสำเร็จรูป เช่น อาหารหมักดอง อาหารแห้งต่าง ๆ หรืออาหารสำเร็จรูป เช่น อาหารกระป๋อง เครื่องดื่ม ฯลฯ อาจมีสิ่งต่าง ๆ ปนเปื้อนอยู่ในอาหารนั้น
สิ่งที่ปนเปื้อนบางชนิดก็ไม่เป็นอันตราย บางชนิดก็เป็นอันตราย ทำให้ผู้บริโภคเป็นโรค หรือมีอาการผิดปกติต่าง ๆ เช่น ปวดท้อง ท้องเดิน อาเจียนปวดศีรษะ มึนงง และเสียการทรงตัว เป็นต้น
สิ่งปนเปื้อนอาหาร ที่ทำให้เกิดอันตรายแก่ผู้บริโภค มีทั้งสิ่งที่มีชีวิต ได้แก่ จุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรค สัตว์เซลล์เดียวบางชนิด และพยาธิ สิ่งที่ไม่มีชีวิต ได้แก่ สารเคมีต่าง ๆ จากสิ่งแวดล้อม อาทิ สารเคมีที่ปนเปื้อนน้ำ อากาศ ดิน ภาชนะบรรจุอาหาร พืชหรือสัตว์บางชนิด สารเคมีที่ทำให้เกิดอันตรายแก่
ผู้บริโภคนี้เรียกว่า สารพิษ

 

        โดยปกติเมื่อสารพิษเข้าสู่ร่างกาย ร่างกายจะพยายามกำจัดสารพิษนั้น โดยเปลี่ยนสารพิษให้เป็นสารอื่น หรือขับสารพิษออกนอกร่างกาย เพื่อป้องกันไม่ให้สารพิษทำอันตรายต่อร่างกาย แต่ถ้าสารพิษเข้าสู่ร่างกายในปริมาณมาก หรือเข้าสู่ร่างกายทีละน้อย แต่ติดต่อกันเป็นเวลานาน สารพิษ
จะถูกสะสมไว้ในร่างกาย ทำให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายได้ อันตราย หรือความเป็นพิษที่เกิดขึ้นของ
สารพิษแต่ละชนิด จะแตกต่างกัน สารพิษบางชนิดมีฤทธิ์ต่ออวัยวะของระบบทางเดินอาหาร ทำให้เกิดการอักเสบต่อกระเพาะอาหาร ลำไส้ และตับ ทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ ท้องเดิน อาเจียน ปวดท้อง อุจจาระเป็นเลือด ตับอักเสบ ฯลฯ สารพิษบางชนิดออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท ทำให้สมองพิการ ประสาทหลอน มึนงง เคลิ้มฝัน ตาพร่า ฯลฯ สารพิษบางชนิดออกฤทธิ์ต่อไต ทำให้ไตอักเสบ
เป็นนิ่วในไต เป็นนิ่วในท่อปัสสาวะ ไตวาย ฯลฯ สารพิษบางชนิด ออกฤทธิ์ต่อระบบหายใจ ทำให้หัวใจเต้นผิดปกติ หายใจไม่สะดวก หัวใจล้มเหลว ฯลฯ นอกจากสารพิษจะมีฤทธิ์ต่ออวัยวะระบบ
ต่าง ๆ แล้ว สารพิษบางชนิดยังเป็นสารก่อมะเร็ง และเป็นสารก่อกลายพันธุ์ได้ด้วย  

 

อาหารกระป๋อง ไม่ควรเก็บไว้ในที่ร้อน เพราะความร้อนจะทำให้ดีบุกละลายลงในอาหารได้ และถ้าเปิดกระป๋องก็ควรรีบเทใส่จานเพราะอากาศจะเป็นตัวเร่งให้ดีบุกละลายได้เร็วขึ้น

 

 

        สารพิษที่ปนเปื้อนมากับอาหาร ได้แก่ สารพิษที่ปนเปื้อนลงไปในอาหาร โดยไม่ได้ตั้งใจ เป็นสารพิษที่เกิดขึ้น จากกระบวนการผลิตอาหาร สารพิษที่ปนเปื้อนมากับภาชนะบรรจุอาหาร สารประกอบของโลหะหนัก สารเคมีที่ใช้ในการเกษตร ซึ่งตกค้างอยู่ในอาหาร และสารพิษที่เกิดจากจุลินทรีย์ที่ปนเปื้อนมากับอาหาร ดังตัวอย่างต่อไปนี้

 

๑. สารที่เกิดจากกระบวนการผลิตอาหาร เช่น ไนโทรซามีน สารนี้เกิดจากก๊าซ ไนโตรเจนไดออกไซด์ในอากาศ ทำปฏิกิริยากับสารอะมีน หรือสารที่ได้จากการสลายตัวของโปรตีน ทำให้เกิดสารก่อ
มะเร็งในตับ พบสารชนิดนี้ในอาหารรมควัน ปิ้ง และย่าง

 

อาหารที่บรรจุในภาชนะที่ทำจากหนังสือพิมพ์ อาจมีสารพิษจากหมึกพิมพ์ปนเปื้อนอาหาร

 

๒. สารที่ปนเปื้อนมากับภาชนะบรรจุอาหาร เช่น สารประกอบตะกั่ว ทำให้เกิดอาการได้ ๒ ลักษณะคือ อาการเฉียบพลัน ได้แก่ อ่อนเพลีย คลื่นไส้ วิงเวียน กล้ามเนื้อ กระตุก และอาการเรื้อรัง ได้แก่ โลหิตจาง กล้ามเนื้อไม่มีแรง อัมพาต ไตอักเสบ พบสารชนิดนี้ ในอาหารที่บรรจุใน
ภาชนะเคลือบดินเผา ภาชนะที่มีสี มีลวดลาย กระป๋องที่บัดกรีด้วยโลหะผสมตะกั่ว อาหารที่ห่อด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ และผักหรือผลไม้ ซึ่งมีสารกำจัดแมลงที่เป็นสารประกอบตะกั่วตกค้างอยู่ 

 

๓. สารเคมีที่ใช้ในการเกษตร เช่น สารกำจัดแมลง ที่สำคัญได้แก่ ดีดีที (ชาวบ้าน เรียก ดีดีที แต่สารที่ใช้อาจไม่อยู่ในกลุ่มดีดีที) ทำให้เกิดอาการได้ ๒ ลักษณะคือ อาการเฉียบพลัน ได้แก่ ชาที่ลิ้น
ริมฝีปากและหน้า เวียนศีรษะหน้ามืด กล้ามเนื้อกระตุก หัวใจ เต้นไม่สม่ำเสมอ อาจเสียชีวิตได้ และอาการเรื้อรัง ได้แก่ มะเร็งในตับ มะเร็งในเม็ดเลือดขาว และโลหิตจาง พบสารชนิดนี้ ในพืช ผัก
ผลไม้ หรืออาหารอื่นบางชนิด 

 

การฉีดพ่นสารเคมีกำจัดศัตรูพืชสารเคมีที่ใช้อาจเหลือติดค้างอยู่ เมื่อนำพืชผักไปรับประทาน หรือประกอบอาหารควรล้างให้สะอาดก่อน

 

๔. สารพิษที่เกิดจากจุลินทรีย์ที่ปนเปื้อนมากับอาหาร เช่น อะฟลาท็อกซิน ซึ่งเกิดจากเชื้อราหลายชนิด ที่สำคัญคือ เชื้อแอสเพอร์จิลลัส ฟลาวัส สารนี้ทำให้เกิดอาการได้ ๒ ลักษณะคือ อาการเฉียบพลัน ได้แก่ ไข้สูง อาเจียน ไม่รู้สึกตัว สมองและตับถูกทำลาย อาจเสียชีวิตได้ภายใน ๒-๓ วัน อาการชนิดนี้เกิดในเด็กที่ขาดอาหารโปรตีน และอาการเรื้อรัง ได้แก่ มะเร็งในตับ ซึ่งเกิดขึ้น เนื่องจากมีสารพิษสะสมอยู่ อาการชนิดนี้พบในผู้ใหญ่ พบสารชนิดนี้ในถั่วลิสง และข้าวโพดที่ชื้น อาหารแห้งต่าง ๆ เช่น กุ้งแห้ง ปลาแห้ง พริกแห้ง และผลไม้ต่าง ๆ 

 

        ความรู้เกี่ยวกับสารพิษในอาหาร จะทำให้เราสามารถหลีกเลี่ยง หรือลดอันตราย ที่เกิดจากพิษของสารเหล่านี้ ทั้งอันตรายที่เกิดขึ้นในทันที และอันตรายที่เกิดขึ้นจากการสะสมของสารพิษเป็นเวลานาน

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Plookpedia
  • 15 Followers
  • Follow