“เบนจามิน แฟรงคลิน” (Benjamin Franklin) นักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกันผู้สนใจเรื่องปรากฎการณ์ทางธรรมชาติของฟ้าแลบ ฟ้าผ่าและฟ้าร้อง เขาได้สันนิษฐานว่าปรากฏการณ์เหล่านี้น่าจะเกิดจากประจุไฟฟ้าบนท้องฟ้า จึงทำการทดลองครั้งสำคัญขึ้นในวันนี้ โดยนำว่าวขึ้นสู่ท้องฟ้าในขณะที่มีฝนตกฟ้าคะนอง
• ว่าวนั้นทำด้วยผ้าแพรแทนกระดาษ และมีเหล็กแหลมติดอยู่ที่ตัวว่าว ตรงปลายสายป่านผูกลูกกุญแจเอาไว้ และผูกริบบิ้นไว้กับสายป่านอีกทีหนึ่ง เมื่อฝนตกทำให้สายป่านนั้นเปียก ได้ปรากฏว่ามีประจุไฟฟ้าไหลลงมาทางเชือกเข้าสู่ลูกกุญแจ ตัวเขาไม่ได้รับอันตรายจากกระแสไฟฟ้า เนื่องจากได้จับริบบิ้นซึ่งเป็นฉนวนไฟฟ้าไว้
• เขาลองใช้เศษหญ้าแห้งจ่อเข้ากับลูกกุญแจ ปรากฏว่าเกิดประจุไฟฟ้าไหลเข้าสู่มือเขา เมื่อเขานำลูกกุญแจวางลงพื้นดินก็เกิดประกายไฟฟ้าขึ้นอีก และเมื่อนำขวดแก้วไลเดน (อุปกรณ์เก็บสะสมประจุไฟฟ้า) มาต่อเข้ากับกุญแจ ปรากฏว่าประจุไฟฟ้าได้ไหลลงมาในขวด
• ผลการทดลองในครั้งนั้นทำให้เขาสามารถสรุปได้ว่าการเกิดฟ้าแลบ ฟ้าร้อง และฟ้าผ่านั้น เกิดจากประจุไฟฟ้าบนท้องฟ้า อันเกิดจากการเสียดสีกันระหว่างก้อนเมฆกับอากาศ จนทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตนั่นเอง
การค้นพบในวันนี้ส่งผลให้ “เบนจามิน แฟรงคลิน” สามารถประดิษฐ์สายล่อฟ้าได้สำเร็จในเวลาต่อมา โดยสายล่อฟ้านั้นมีลักษณะเป็นโลหะปลายแหลมผูกติดไว้บนยอดอาคารสูง ส่วนปลายโลหะเชื่อมต่อกับสายไฟยาวลงไปในแนวดิ่ง ปลายของสายไฟจะถูกฝังลึกลงในหลุมดิน ที่มีแผ่นโลหะขนาดใหญ่ปูเอาไว้สำหรับให้กระแสไฟฟ้าไหลลงมาและกระจายออกไปบนแผ่นโลหะ