แม้เด็กเล็กจะดูสดใสร่าเริง มีความสุขกับชีวิตตลอดเวลา แต่เชื่อไหมคะว่า เด็ก ๆ เองก็มีช่วงเวลาที่จิตตก เครียด สับสนวุ่นวายใจไม่ต่างไปจากผู้ใหญ่อย่างเรา ๆ เลยค่ะ

วันนี้ครูพิมจึงมี 5 เทคนิคง่าย ๆ ที่คุณพ่อคุณแม่สามารถนำไปใช้สอนลูก ๆ ให้รู้จักการควบคุมอารมณ์และรู้จักผ่อนคลายตัวเองเมื่อรู้สึกไม่สบายกายไม่สบายใจ กังวล หรือแม้แต่ประหม่า ซึ่งเทคนิคเหล่านี้ ผู้ปกครองอย่างเราก็สามารถนำไปใช้กับตัวเองได้เช่นกันนะคะ ลองมาดูไปด้วยกันเลยค่ะ

สงบใจด้วยเพลง

การใช้เพลง เป็นวิธีการที่ช่วยให้ผ่อนคลายและเปลี่ยนบรรยากาศตึงเครียด ให้เป็นบรรยากาศที่ดีได้ในเวลาอันรวดเร็ว โดยเพลงที่ใช้ ครูพิมแนะนำว่าขอให้เป็นเพลงที่ตรงกับความชอบหรือจริตของเด็กจะดีที่สุดค่ะ เด็กบางคนอาจสงบด้วยเพลงการ์ตูนเรื่องโปรด บางคนชอบเพลงคลาสสิค บางคนอาจเป็นเพลงทำนองฟังสบาย หรือบางคนอาจจะเหมาะกับเสียงธรรมชาติมากกว่าเสียงเพลง คุณพ่อคุณแม่ก็ลองเลือกหากันดูได้ค่ะ

โยคะพาเพลิน

การเล่นโยคะ เป็นวิธีที่ผู้ใหญ่อย่างเรานิยมใช้ในการออกกำลังกายและฝึกสมาธิใช่ไหมล่ะคะ แต่รู้ไหมคะว่า การเล่นโยคะ ก็ยังเป็นสิ่งที่สามารถนำมาใช้ในการฝึกสมาธิและสงบจิตใจให้กับเด็ก ๆ ได้ด้วย โดยการใส่เรื่องราวหรือเสียงประกอบเข้าไป ก็จะยิ่งทำให้เกิดความน่าสนใจและทำให้เด็ก ๆ ชอบได้ไม่ยากเลยค่ะ

ฝึกสมาธิอย่างง่าย

เมื่อพูดถึงสมาธิ หลาย ๆ คนอาจจะคิดว่า ฉันจะสอนเด็ก ๆ เรื่องสมาธิได้อย่างไร ขนาดเป็นผู้ใหญ่ยังทำยากเลย แต่ที่จริงแล้ว การสอนสมาธิให้กับเด็ก ๆ อาจไม่จำเป็นต้องมีความจริงจังหรือกำหนดลมหายใจเข้าออกแบบการนั่งสมาธิในวัดเสมอไปค่ะ เพราะสมาธิที่แท้จริงก็คือการจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ไม่วอกแวก สำหรับเด็ก ๆ นั้น อาจเป็นการฝึกนั่งหลับตานิ่ง ๆ ก็เพียงพอแล้วค่ะ

ฝึกการหายใจ

การหายใจนั้นส่งผลกับพฤติกรรมและอารมณ์ของเราได้อย่างไม่น่าเชื่อนะคะ งานวิจัยทางจิตวิทยาหลาย ๆ ชิ้น ก็ได้สะท้อนให้เห็นถึงความจริงในข้อนี้ โดยผู้ที่อยู่ในอารมณ์โกรธ เครียด หรือตื่นเต้น ก็จะมีจังหวะการหายใจที่ถี่กว่าปกติ ซึ่งก็ยิ่งไปเร่งให้เกิดอารมณ์เหล่านั้นมากขึ้น ดังนั้น การฝึกหายใจช้า ๆ กำหนดลมหายใจให้นิ่งขึ้น ลึกขึ้น จึงเป็นวิธีหนึ่งที่จะนำมาใช้ในการปรับอารมณ์และเพิ่มความผ่อนคลายให้กับเด็ก ๆ ได้ดียิ่งขึ้นนั่นเองค่ะ

ฝึกกิจกรรมสร้างการตระหนักรู้

กิจกรรมสนุก ๆ หรือเกมสำหรับเด็กหลาย ๆ อย่าง ก็สามารถนำมาใช้ในการช่วยให้เด็ก ๆ มีสมาธิ สติ และความผ่อนคลายได้เช่นเดียวกันนะคะ โดยกิจกรรมที่ครูพิมแนะนำ ก็จะเป็นกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับเพลง ดนตรี ศิลปะ เกมที่ใช้เวลาในการเล่นค่อนข้างนานแต่ไม่น่าเบื่อ หรือเกมที่มีการเปลี่ยนคำสั่งสลับไปมา เพื่อให้เด็กตื่นตัวและมีสมาธิจดจ่ออยู่กับเกม ก็สามารถที่จะนำมาใช้ได้เช่นเดียวกันค่ะ

สำหรับเทคนิคต่าง ๆ ที่ครูพิมนำมาฝากในวันนี้ หากมีการนำไปปรับใช้และฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง ก็จะช่วยให้เด็กๆ มีสมาธิ สติ และผ่อนคลายได้อย่างแน่นอนค่ะ และสิ่งดี ๆ เหล่านี้ จะยิ่งทวีคูณมากขึ้น หากว่าคุณพ่อคุณแม่เอง ก็นำไปปรับใช้ เพื่อลดความเครียด และสร้างความผ่อนคลายให้กับตัวเองด้วยเช่นกัน เพราะไม่ว่าอย่างไร ผู้ใหญ่ในบ้านและคนที่ใกล้ชิดกับเด็ก ก็ย่อมส่งผลต่อพฤติกรรม อารมณ์ และความคิดของเด็กอยู่ไม่น้อยค่ะ

การเปลี่ยนแปลงและปรับปรุงที่ดีที่สุด จึงควรจะทำควบคู่กันไปทั้งเราและเด็ก เพื่อให้เกิดเป็นบรรยากาศของครอบครัวที่อบอุ่นและผ่อนคลาย เอื้อให้เด็ก ๆ เติบโตขึ้นไปได้อย่างมีสุขภาพจิตที่ดีนั่นเองค่ะ  

ครูพิม ณัฏฐณี   สุขปรีดี

นักจิตวิทยาผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาศักยภาพเด็กเล็กและการเลี้ยงลูกเชิงบวก

Facebook.com/PimAndChildren