Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

แกงไทยบ้าน ๆ ช่วยต้านมะเร็ง !

Posted By Glimmergirl | 30 มิ.ย. 65
4,305 Views

  Favorite

เรื่องของอาหารไทยไม่เคยแพ้ชาติใดในโลก ไม่ว่าจะเป็นรสชาติที่กลมกล่อม วัตถุดิบที่คัดสรรอย่างดี พร้อมสมุนไพรหลากหลายชนิด ที่นอกจากจะช่วยเพิ่มกลิ่นหอมในอาหารแล้ว ยังมีสรรพคุณทางยาที่ช่วยบำรุงร่างกาย ป้องกันและรักษาโรคภัยต่าง ๆ ได้แม้แต่โรคร้ายแรงอย่างมะเร็ง

 

อาหารไทยขึ้นชื่อเรื่องรสชาติเผ็ดร้อน มีการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างรสชาติเปรี้ยว เผ็ด เค็ม หวาน และที่ขาดไม่ได้คือความหอมของตัวชูรสชาติ ให้อาหารของไทยโดดเด่นมีเอกลักษณ์ คือ สมุนไพรและเครื่องเทศต่าง ๆ ที่เป็นวัตถุดิบหลักของเครื่องแกงสารพัดชนิดที่เรานิยมรับประทาน หากินง่าย เป็นเมนูหลัก ๆ ในร้านอาหารไม่ว่าจะเป็นร้านข้าวแกงทั่วไปจนถึงร้านหรู และเจ้าสมุนไพรที่เป็นหัวใจหลักของแกงต่าง ๆ นี่เองคือกุญแจสำคัญที่ใช้ไขไปสู่ความลับของการป้องกันการเกิดโรคมะเร็งได้ มีแกงอะไรบ้างมาหาคำตอบไปพร้อมกัน

 

Glimmergirl

 

คำยืนยันจาก รศ.ดร. สมศรี เจริญเกียรติกุล อาจารย์ประจำฝ่ายเคมีทางอาหาร สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งทำการวิจัยเกี่ยวกับน้ำแกงไทยพบว่า น้ำแกงไทยสามารถลดอัตราการเกิดเซลล์มะเร็งได้ โดยอาจารย์สมศรีเริ่มต้นทำการทดลองนอกสิ่งมีชิวิตในห้องทดลอง โดยนำเซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาวเป็นตัวทดสอบโดยประเมินจาการตายของเซลล์มะเร็ง

 

การตายของเซลล์มะเร็งพบได้ 2 แบบ คือ

1. การตายแบบธรรมชาติ ( APOPTOSIS) คือ โดยทั่วไปเซลล์จะมีช่วงอายุเป็นของตัวเอง เซลล์มะเร็งก็เช่นกัน เมื่อถึงเวลาเซลล์ที่หมดอายุจะตายไปเองโดยธรรมชาติเพียงตัวเดียวไม่ทำลายเซลล์อื่น ๆ ที่อยู่รอบ ๆ ให้ตายตามไปด้วย

2. การตายแบบผิดธรรมชาติ (NECROSIS) คือ เซลล์จะตายเป็นกลุ่ม จากการที่เซลล์เกิดการอักเสบ บวม และแตก ทำให้เซลล์ที่อยู่ข้าง ๆ เกิดความเสียหายและตายตามไปด้วย

 

Kanokwan Petchtae

 

เริ่มต้นการทดลองนอกสิ่งมีชีวิต

รศ.ดร. สมศรี เริ่มทำการทดลองโดยใช้น้ำแกงปรุงสำเร็จ 5 อย่าง ได้แก่ แกงเลียง แกงส้ม แกงป่า แกงเหลือง และต้มยำ โดยนำน้ำแกงปรุงสำเร็จทั้ง 5 ชนิดไปเลี้ยงเซลล์มะเร็ง เปรียบเทียบกับยารักษาโรงมะเร็ง พบว่า ยารักษาโรคมะเร็งฆ่าเซลล์มะเร็งได้ 70% ในขณะที่ แกงเลียง แกงส้ม และแกงป่าสามารถฆ่าเซลล์มะเร็งที่ตายแบบธรรมชาติได้ถึง 45% ต้มยำ 30% และแกงเหลือง 25% ส่วนเซลล์มะเร็งที่ตายผิดธรรมชาติ พบได้น้อยที่สุดในแกงเลียง พบได้มากที่สุดในแกงเหลือง ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าแกงเลียงมีผลตอบสนองที่ดีที่สุดในการลดความเสี่ยงการเกิดเซลล์มะเร็ง ตามมาด้วยแกงส้ม และแกงป่า

 

Kanokwan Petchtae

 

ขั้นที่สองทดลองกับสิ่งมีชิวิต

จากผลการทดลองที่น่าพึงพอใจในขั้นแรก อาจารย์สมศรีจึงเริ่มงานวิจัยขั้นต่อมากับสิ่งมีชีวิต โดยใช้หนูแบ่งเป็น 3 กลุ่ม

กลุ่มแรกเลี้ยงแบบให้อาหารปรกติ กลุ่มที่สองเลี้ยงโดยให้สารก่อมะเร็งอย่างเดียว กลุ่มที่สามเลี้ยงโดยให้แกงเลียงปรุงสำเร็จแบบที่คนกินนำไปอบแห้งเป็นอาหารนาน 6 สัปดาห์ ในสัปดาห์ที่ 2 และ 3 ชักนำให้หนูอยู่ในภาวะเกิดสารก่อมะเร็ง รอจนครบ 6 สัปดาห์จากนั้นนำลำไส้หนูมาตรวจ ผลการศึกษาพบว่า หนูที่ไม่ได้รับแกงเลียงเลยมีโอกาสเกิดเซลล์ผิดปรกติมากกว่าหนูที่ให้แกงเลียงถึง 50%

 

Glimmergirl

 

แม้ว่าจะเป็นการศึกษาในระยะสั้นแต่ผลการวิจัยก็ออกมาชัดเจนว่าการกินแกงเลียงซึ่งเป็นอาหารที่ให้พลังงานต่ำแต่มีไฟเบอร์สูง และอุดมไปด้วยสมุนไพร ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดเซลล์ผิดปรกติลงได้จริง ซึ่งหากการเกิดเซลล์ผิดปรกติลดลงก็มั่นใจได้ว่าจะไม่นำไปสู่การเกิดเซลล์มะเร็งในระยะต่อ ๆ ไป 

นำผลการวิจัยมายืนยันให้มั่นใจว่าอาหารไทยของเราที่กินกันอยู่เป็นประจำ ทั้งยังหากินง่ายก็เป็นสุดยอดอาหารต้านมะเร็งอย่างหนึ่ง แต่จะให้กินแกงเลียงอย่างเดียวทุกวันก็คงไม่ไหวแน่ อย่างไรก็อย่าลืมสลับมากินแกงส้มบ้าง แกงป่าบ้าง หรือแม้แต่ต้มยำหรือแกงเหลือง ถึงแม้ว่าผลการวิจัยจะมีเปอร์เซ็นต์ต่ำกว่าแกงเลียงแต่ก็ดีกว่าไปกินอาหารที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงสูงอย่างอื่นแน่ ๆ และอย่างนิ่งนอนใจไปเพราะผักที่นำมาประกอบอาหารก็ต้องล้างทำความสะอาดให้ปลอดสารเคมีมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ การปรุงอาหารเองก็มีส่วนสำคัญนอกจากจะได้รับประทานรสชาติที่ถูกปาก ราคาประหยัดแล้ว ยังคัดสรรคุณภาพความสดใหม่ของวัตถุดิบที่นำมาทำอาหารด้วยตัวเองได้ด้วย ปลอดภัยกว่าแน่นอน

 

Kanokwan Petchtae

 

นอกเหนือไปจากการรับประทานอาหารแล้วก็อย่าลืมหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ ที่สำคัญอย่าเครียดจนเกิดไป จิตใจแจ่มใสก็ห่างไกลมะเร็งแล้วค่ะ มื้อเย็นนี้หาแกงเลียงมากินดีกว่าเนอะ

 

ขอขอบคุณข้อมูลจากสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล

ขอบคุณภาพ Cover จาก Pixabay และคุณกนกวรรณ เพชรแท้ เอื้อเฟื้อภาพประกอบ

 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Glimmergirl
  • 5 Followers
  • Follow