Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

ทำงานไม่ตรงสาย ไม่ใช่อุปสรรคสำหรับคนยุคดิจิตอล

Posted By Plook Creator | 25 ม.ค. 60
10,013 Views

  Favorite

ในยุคที่อินเตอร์เน็ตเข้าถึงง่ายกว่าโทรศัพท์สาธารณะ และติดต่อคนได้ทั้งโลกทุกที่ทุกเวลา โอกาสในการหางานก็เปลี่ยนไปจากอดีต ที่แต่เดิมผู้ที่จบมาแต่ทำงานไม่ตรงสายที่เรียนจบ รายได้หรือเงินเดือนจะน้อยกว่าผู้ที่จบมาตรงสาย

แต่ปัจจุบันนั้นแตกต่างออกไปแล้ว เนื่องจากหน้าที่การงานยุคใหม่ มีการบูรณาการหลายศาสตร์เข้าด้วยกัน และนายจ้างหลายรายเริ่มพบว่าการจ้างคนที่จบมาทำงานไม่ตรงสายกลับเป็นข้อดีคือ ลูกจ้างคนนั้นสามารถทำงานอื่น หรือให้คำแนะนำในด้านที่ตัวเองเรียนจบมา นอกเหนือจากงานของตัวเองก็ได้
 


ชนาธิป โพธิอ่อน หรือพี่เด่น ปัจจุบันเป็น Country Manager ของบริษัท Saleduck Asia ซึ่งมีสำนักงานอยู่ที่ประเทศมาเลเซียปัจจุบันดูแล และทำการตลาดให้กับเว็บไซต์คูปองส่วนลดชื่อดังอย่าง www.saleduck.co.th  

สำหรับประวัติของพี่เด่นนั้นก็ไม่ธรรมดา เพราะนอกจากจะเรียนจบจากโรงเรียนสาธิต มศว. ปทุมวันในวัยมัธยมแล้ว ในระดับปริญญาตรีนั้นก็สำเร็จการศึกษาจากคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก่อนที่จะไปเรียนต่อด้าน Communication จาก Macquarie University รัฐ New South Wales ประเทศออสเตรเลีย

แม้งานในช่วงแรกนั้นจะมีสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่ตนเองเรียนจบมานั่นก็คือกฎหมาย แต่สำหรับบทบาทปัจจุบันในฐานะผู้จัดการฝ่ายการตลาดดิจิตอลนั้น อาจเรียกได้ว่าแทบไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับกฎหมาย หรือความรู้ที่ต้องใช้นิติศาสตร์เลย

 


พี่เด่นเปิดเผยถึงจุดเริ่มต้นของการที่ไม่ได้ทำงานตรงตามสายงาน เริ่มมาจากงานแรกในชีวิตไม่ได้ทำงานตรงตามสาย และรู้สึกสนุกกับมันมาก ในช่วงที่ทำงานก็มีความสุขที่ได้ทำ จนตัดสินใจไปเรียนต่อปริญญาโทด้านการสื่อสารจากประเทศออสเตรเลีย เพราะคิดว่าสามารถเอามาประยุกต์ใช้กับงานหลาย ๆ อย่างได้ แม้จะมีช่วงหนึ่งที่กลับทำงานด้านกฎหมาย แต่รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้ชอบทางนี้อย่างจริงจัง จึงทำงานด้านอื่นเรื่อยมาโดยไม่ได้กลับไปประกอบวิชาชีพทางกฎหมายอีกเลย
 

สำหรับการทำงานไม่ตรงสาย พี่เด่นมองว่าไม่ใช่เรื่องเสียเปรียบแต่อย่างใด เพราะปัจจุบันนี้การทำงานยุคใหม่แทบไม่ได้วัดความรู้ที่ใบปริญญา แต่วัดสิ่งที่เราสามารถทำได้ ดังนั้นเราจะต้องตื่นตัวและเรียนรู้ตลอดเวลาอยู่แล้ว เพราะสิ่งใหม่ ๆ ความรู้ใหม่ ๆ มันมีมาตลอด ถ้าจะมองให้เห็นภาพชัด อาจมองย้อนไปถึงการขายสินค้าที่สมัยก่อนหากต้องการซื้อ เราต้องเป็นฝ่ายเดินทางไปยังร้านค้าหรือห้างสรรพสินค้า แต่ในปัจจุบันเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่าเงช่นเฟซบุ๊ก ไลน์ อินสตาแกรมเปลี่ยนโลกของการซื้อขายสินค้าไปโดยสิ้นเชิง เรานั่งอยู่กับบ้านแล้วสามารถซื้อสินค้าอะไรก็ได้ จากนั้นก็รอให้ร้านนำมาส่งถึงประตูบ้าน
 

หรืออย่างที่พี่เด่นทำอยู่ขณะนี้คือการมอบคูปองส่วนลดออนไลน์จากร้านค้าออนไลน์ต่าง ๆ ให้กับลูกค้า โดยลูกค้าสามารถเลือกส่วนลดสินค้าได้หลากหลายประเภท อย่างเช่น ส่วนลดสำหรับคอมพิวเตอร์ ส่วนลดสำหรับเสื้อผ้าแฟชั่น หรือแม้แต่ส่วนลดสำหรับที่พักและตั๋วเครื่องบินก็มีให้บริการ ด้วยวิธีการไม่ยากเพียงแค่เข้าไปในเว็บไซต์ Saleduck แล้วเลือกหมวดสินค้า หรือร้านค้าที่ตัวเองสนใจ จากนั้นเว็บจะแสดงรหัสส่วนลด ที่สามารถนำไปกรอกลดราคาสินค้าที่ร้านค้าปลายทางได้ทันที อย่างเช่น Lazada Zalora หรือ agoda.com เป็นต้น

 

ภาพ : Pixabay

 

สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นกับทุกสาขาอาชีพ ไม่เฉพาะเรื่องของการขายสินค้าอย่างเดียว ดังนั้นไม่ต้องกังวลหากต้องเปลี่ยนสายงานของตัวเองมาทำงานด้านอื่น
 

อย่างไรก็ตามมักจะมีคำถามหนึ่งที่พี่เด่นมักโดนถามเสมอ คือ ไม่เสียดายความรู้ที่เรียนมาเหรอ ? พี่เด่นตอบชัดเจนว่า ความรู้ที่เรียนมาเป็นเสมือนเครื่องรับรองความสามารถ และเราสามารถเลือกประยุกต์ใช้ความรู้ที่ได้ร่ำเรียนมาให้เกิดประโยชน์แก่การทำงานได้ โดยไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นแขนงเดียวกัน อย่างเช่นครั้งหนึ่งที่บริษัทมีปัญหาเรื่องการถูกละเมิดลิขสิทธิ์ ตัวเองก็สามารถใช้ความรู้ในการให้คำแนะนำที่เหมาะสมสำหรับการจัดการปัญหาได้ หรือแม้แต่สิ่งที่เป็นผลพลอยได้จากการเรียนมาเช่น ตรรกะ ระบบความคิด ที่ช่วยเสริมสร้างให้ตัวเองมีความพิเศษกว่าคนอื่น ซึ่งมองแล้วข้อดีก็มีมากกว่าข้อเสียซะด้วยซ้ำ
 


พี่เด่นยังได้ฝากถึงคนรุ่นใหม่ที่เรียนมาแล้วแต่ยังไม่มั่นใจในตัวเองว่า อย่ากลัวที่จะเปลี่ยนแปลง เพราะโลกเปลี่ยนตลอดเวลา บางครั้งเราอาจจะไม่ถนัดกับสิ่งที่เราเรียนมาจริง ๆ หรือบางครั้งอาจจะได้พบกับสิ่งที่ชอบและสิ่งที่ใช่เมื่อเราได้ลองเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้อยากให้คนรุ่นใหม่ทำงานแบบกัดไม่ปล่อย คือถ้าเราทำไม่เป็น ก็จะต้องหัด ต้องฝึกทำจนกว่าจะเป็น ถ้าเราไม่รู้ก็ไปเรียนมาให้รู้ จะทำตัวเป็นเป็ดก็ได้ บินก็ได้ ว่ายน้ำก็ได้ ยิ่งทำได้หลายอย่างในยุคนี้ยิ่งน่าสนใจ สุดท้ายคือการทำตัวเป็นน้ำไม่เต็มแก้ว พร้อมรับและเปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ตลอดเวลา

 

เรื่อง : วีรภัทร คันธะ บรรณาธิการบริหาร Saleduck Thailand 
ขอบคุณภาพปก : Pixabay

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Plook Creator
  • 0 Followers
  • Follow