Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับการกินกรดไขมันโอเมก้า

Posted By Glimmergirl | 17 ส.ค. 65
6,949 Views

  Favorite

เมื่อพูดถึงอาหารบำรุงสมองไม่มีคุณค่าทางสารอาหารใดเทียบได้กับกรดไขมันโอเมก้า เพราะองค์ประกอบสำคัญของสมองเรา 60 % คือไขมัน และจำเป็นต้องใช้ไขมันดีในการบำรุงและฟื้นฟูเซลล์ ทุกวันนี้อาหารต่าง ๆ ที่โฆษณาทางโทรทัศน์ต่องออกมากล่างถึงกรดไขมัน โอเมก้า 3,6,7 และ9 ว่ามีประสิทธิภาพช่วยในการบำรุงระบบประสาทและสมองมากมาย แต่ความจริว่างแล้วเราเคยตั้งคำถามหรือไม่สิ่งที่ "เขาเล่าว่า"มานั้นถูกต้องแล้วหรือยัง

ในเมื่อกรดไขมันจำเป็นโอเมก้ามีทั้ง 3,6,7, และ 9 อาจทำให้เราสับสนว่าชนิดที่จำเป็นต่อร่างกายจริง ๆ หรือมีชนิดไหนบ้างที่เราควรหลีกเลี่ยงรึเปล่า และความเชื่อแบบผิด ๆ จะส่งผลให้เรารับกรดไขมันจำเป็นเหล่านี้ไม่เพียงพอแถมยังก่อให้เกิดโทษอีกต่างหาก ลองมาสำรวจไปกับเราว่าคุณเคยมีความเชื่ออย่างผิด ๆ เหล่านี้อยู่รึเปล่า

 

Pixabay

 

ความเชื่อผิด ๆ #1 กรดไขมันโอเมก้ามีประโยชน์เท่ากันทุกตัว

ความจริง : กรดไขมันโอเมก้าต่างชนิดมีคุณสมบัติแต่งต่างกันมากมาย เช่น โอเมก้า 3 เป็นกรดไขมันที่ต้านการอักเสบ แต่ในขณะที่ โอเมก้า 6 เป็นตัวเร่งให้เกิดการอักเสบในร่างกาย เป็นสาเหตุของอาการเจ็บคอ และแผลในปาก 

ความเชื่อผิด ๆ #2 ควรกินกรดไขมันโอเมก้าให้มากเท่าที่จะทำได้

ความจริง : ส่วนมากเราจะได้รับโอเมก้า 6 ในปริมาณที่มากเกินความจำเป็น หากต้องการกรดไขมันบำรุงสมองจึงควรลดการกินโอเมก้า 6 และเพิ่มการบริโภค โอเมก้า 3,7 และ 9 ให้มากขึ้น ผู้เชี่ยวชาญทางโภชนากล่าวว่าในมื้ออาการปรกติเราจะได้รับปริมาณ โอเมก้า 6 มากกว่าโอเมก้า 3 ถึง 30-40 เท่า อากหารที่อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 ซึ่งจำเป็นต่อร่างกายมากกว่าพบได้ใน เมล็ดป่านและเมล็ดกัญชา โอเมก้า 7 พบมากในผลและน้ำมันซี บัคธอร์น ส่วนอาหารโอเมก้า 9 สูงได้แก่มะกอกและน้ำมันมะกอก

 
Pixabay

 

ความเชื่อผิด ๆ #3 น้ำมันจากดอกคำฝอย น้ำมันดอกคาโนลา น้ำมันข้าวโพด และน้ำมันดอกทานตะวันเป็นแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยโอเมก้า 3  

ความจริง : น้ำมันจากพืชเหล่านี้ความจริงแล้วมีโอเมก้า 6 สูงมากซึ่งในชีวิตประจำวันเราบริโภคเกินความจำเป็นอยู่แล้วและแม้ว่าคุณจะไม่ได้นำน้ำมันเหล่านี้มาประกอบอาหารเองโดยตรง แต่ก็พบได้มากในขนมอบต่าง ๆ และขั้นตอนการเตรียมและปรุงอาหารสำเร็จรูปที่วางขายทั่วไปนำไปสู่ความเชื่อผิด ๆ ในข้อต่อไป 

ความเชื่อผิด ๆ #4 น้ำมันข้าวโพดและน้ำมันดอกคาโนล่าดีต่อสุขภาพ

ความจริง : พืชที่นำมาสกัดน้ำมันเหล่านี้อาจผ่านการตัดแต่งพันธุกรรม ผ่านการพัฒนาปรับปรุงสายพันธุ์มาหลายขั้นตอนเมื่อนำมาสกัดเป็นน้ำมันอาจก่อให้เกิดผลเสี่ยต่อร่างกายมากกว่าผลดี

 
Pixabay

 

ความเชื่อผิด ๆ #5 ปลาเป็นแหล่งอาหารเพียงอย่างเดียวที่ให้โอเมก้า 3 สูง

ความจริง : พืชหลายชนิดก็ให้โอเมก้า3สูงได้เช่นกัน เช่น เมล็ดปอ น้ำมันสกัดจากปอ เมล็ดและน้ำมันสกัดจากกัญชา และวอลนัทดิบ อโวคาโด

ความเชื่อผิด ๆ #6 ปลาที่มีโอเมก้า 3 สูงทุกชนิดเหมาะแก่การบริโภค

ความจริง :  ปลาที่มีโอเมก้าสูงมีมากมายหลายชนิด หลัก ๆ ที่นิยมรับประทานคือ ปลาแม็คเคอเร็ล ปลาซาดีน ปลาอัลบาคอร์ทูน่า ปลาเทราต์ทะเลสาบ และปลาแฮร์ริ่ง แต่ปลาที่เลี้ยงในฟาร์มอย่างปลาแม็คเคอเร็ล ปลาทูน่า ปลาแซลม่อนจะมีการปนเปื้อนจากปรอทสูงจึงควรหลีเลี่ยง

 

Pixabay

 

ความเชื่อผิด ๆ #7 อาหารสำเร็จรูปที่มีโอเมก้า 3 มีประโยชน์ต่อร่างกายทั้งหมด

ความจริง : ส่วนมากบริษัทผลิตอาหารใช้ข้ออ้างของการเติมโอเมก้า 3 ทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดคิดว่าอาหารไม่มีประโยชน์เป็นอาหารที่มีประโยชน์ จนกลายเป็นเรื่องปรกติที่บริษัทผลิตอาหารต่างๆจะเติมกรดไขมันโอเมก้า 3 ลงในผลิตภัณฑ์ของตนเอง โยเกิร์ตหลายยี่ห้อต่างโฆษณาว่าเติมโอเมก้า 3 ที่หลายคนรู้จักในชื่อ DHA กรดไขมันจำเป็นที่มีประโยชน์ต่อร่างกายแต่ในโยเกิร์ต 1 ถ้วยมีโอเมก้า 3 เพียง 32 มิลลิกรัม เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 จริง ๆ อย่างปลาแซลม่อน1ชิ้นที่น้ำหนัก 6 ออนซ์ มี DHA สูงกว่าโยเกิร์ต 1 ถ้วยถึง 100 เท่า

 

อ่านถึงตรงนี้คงพอทำให้สาวมีความเข้าใจเกี่ยวกับกรดไขมันได้ถูกต้องขึ้นบาง การเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ต่อสมองก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปแล้วจริงไหมคะ

 

 

เรื่องโดย Michelle Schffro เรียบเรียงโดย Glimmergirl

 

 

 

 

 

 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Glimmergirl
  • 5 Followers
  • Follow