ใช้ข้อความต่อไปนี้ตอบคำถามข้อ ก. และ ข้อ ข.
เรื่องพระนลจากมหาภารตะที่นำมาแต่งเป็นวรรณคดีไทยมี ๒ สำนวน สำนวนหนึ่งแต่งด้วยคำประพันธ์ที่หลากชนิด เรียกว่า “พระนลคำหลวง” เป็นพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และอีกสำนวนหนึ่งเป็นพระนิพนธ์ของ น.ม.ส. แต่งเป็นคำฉันท์
ก. ข้อความข้างต้นมีคำบุพบทกี่คำ
๑. ๑ คำ
๒. ๒ คำ
๓. ๓ คำ
๔. ๔ คำ
๕. ๕ คำ
ข. ข้อความข้างต้นมีคำสันธานกี่คำ
๑. ๑ คำ
๒. ๒ คำ
๓. ๓ คำ
๔. ๔ คำ
๕. ๕ คำ
ตอบ ๒) ก. ตอบ ๕ ข. ตอบ ๓
ข้อ ก. ตอบ ๕.
เพราะ คำบุพบท คือ คำเชื่อมที่ทำหน้าที่เชื่อมคำหรือวลีเข้าด้วยกัน เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องสัมพันธ์กัน ดังนั้นจากโจทย์จึงมีคำบุพบท ๕ คำ ดังนี้
เรื่องพระนลจากมหาภารตะที่นำมาแต่งเป็นวรรณคดีไทยมี ๒ สำนวน สำนวนหนึ่งแต่งด้วยคำประพันธ์ที่หลากชนิด เรียกว่า “พระนลคำหลวง” เป็นพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และอีกสำนวนหนึ่งเป็นพระนิพนธ์ของ น.ม.ส. แต่งเป็นคำฉันท์
ข้อ ข. ตอบ ๓.
เพราะ คำสันธาน คือ คำเชื่อมที่ทำหน้าที่เชื่อมประโยคใจความเดียวตั้งแต่ ๒ ประโยคเข้าด้วยกัน เพื่อให้เกิดความสละสลวยและกระชับ เมื่อใช้คำสันธานเชื่อมประโยคแล้วจะได้ประโยคใหม่ ๒ ชนิด คือ ประโยคใจความรวม และ ประโยคใจความซ้อน ดังนั้นจากโจทย์จึงมีคำสันธาน ๓ คำ ดังนี้
เรื่องพระนลจากมหาภารตะที่นำมาแต่งเป็นวรรณคดีไทยมี ๒ สำนวน สำนวนหนึ่งแต่งด้วยคำประพันธ์ที่หลากประเภท เรียกว่า “พระนลคำหลวง” เป็นพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และอีกสำนวนหนึ่งเป็นพระนิพนธ์ของ น.ม.ส. แต่งเป็นคำฉันท์